วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

B.O.Q หรือรายการปริมาณงาน(Bill Of Quantity) สำคัญมาก...เวลาให้ผู้รับเหมางานเสนอราคา!!!

     B.O.Q หรือรายการปริมาณงาน(Bill Of Quantity) คืออะไรครับ? ผมเชื่อว่ามีหลายท่านคงสงสัย และมันสำคัญอย่างไร?
     เชื่อหรือไม่ครับ ใครที่เป็นนักศึกษาเรียนเกี่ยวกับการ "ออกแบบตกแต่งภายใน" สมัยผมเรียนนั้นไม่มีการสอนว่าต้องมีการเขียน B.O.Q ประกอบงานเขียน ออกแบบตกแต่งภายใน กันนะครับ ผมมาเรียนรู้ได้เอาหลังจากจบมาทำงานได้สักสองปีหลังจากนั้นว่า เอ้อ..! เจ้าเอกสารประกอบแบบตกแต่งภายในตัวนี้มันมีความสำคัญกับ ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมางานตกแต่ง และท่านเจ้าของงาน เจ้าของบ้านทั้งหลายมากที่เดียว มาดูกันนะครับ..(ใครที่รู้แล้วก็อย่าหาว่าผมพูดทำไมเลยครับ ผมว่าอย่างน้อยก็เป็นวิทยาทานให้กับน้องๆนักศึกษา และท่านเจ้าของบ้านตาดำๆ และผู้รับเหมาตกแต่งจำนวนมาก ก็คงเห็นด้วยกับผมเหล่ะครับ เพราะมี นักออกแบบตกแต่งภายใน หลายๆท่าน หน้าใหม่อาจไม่รู้ หน้าเก่าต้องรู้ แต่ไม่มีเวลาเขียน ขี้เกียจเขียน เขียนไม่ทัน ก็ว่ากันไป)
     อันนี้เป็นตัวอย่างเอกสารที่ผมเขียนขึ้นมาหลังจากการออกแบบ และเขียนแบบรายละเอียด งานตกแต่งภายในเสร็จแล้ว ที่นักออกแบบตกแต่งภายใน เรียกว่า B.O.Q หรือรายการปริมาณงาน(Bill Of Quantity) ซึ่งตัวอย่างนี้เป็นรายการเพียงแค่ห้องเดียว (แล้วท่านคิดดูว่าบ้านทั้งหลัง เอกสารจะมีกี่หน้าครับ) ที่ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน ต้องคิดราคางานที่ต้องเสนอโดยอิงตามแบบ และตาม B.O.Q นี้โดยที่ผู้ออกแบบ จะเว้นว่างช่องที่กรอกจำนวนปริมาณ และราคา ไว้ให้ผู้เสนอราคางานเป็นผู้กรอก ตัวเลข
     จุดประสงค์ก็คือ เพื่อให้ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน (ที่อาจจะมีมากกว่าหนึ่งราย และแม้ว่าจะมีแค่รายเดียว ก็ควรเขียนขึ้นมา) ซึ่งไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ ได้ทราบว่าจะต้องคิดราคาเพื่อเสนอเจ้าของบ้านว่ามีอะไรบ้าง โดยไม่สับสน ไม่หลงแบบ หลงรายการ และหลงประเด็น
     ประโยชน์โดยตรงกับทุกๆฝ่ายก็คือ
     -หากมีผู้เสนอราคางานมากกว่าหนึ่งราย ทั้งผู้ออกแบบ และเจ้าของบ้าน สามารถเปรียบเทียบรายการงาน ราคา แต่ละรายการได้โดยง่าย ไม่สับสนอลหม่านกันไป
     -สามารถเห็นความแตกต่าง หรือผิดปกติในผู้เสนอราคาแต่ละเจ้าได้ง่าย เช่นบ่อยครั้งที่เสนอจำนวนพื้นที่มาต่างกันมากไป
     -ผู้เสนอราคาแต่ละราย จะได้ลดทอนความได้เปรียบ เสียเปรียบ จากการเสนอราคาที่สับสน ไม่ตรงกัน หรือจงใจผิดพลาดโดยบริสุทธ์ใจ
     -ช่วยลดปัญหาข้อขัดแย้งให้กับทุกๆฝ่าย ไม่ต้องทะเลาะกันมั่ว ด้วยเหตุแห่งความไม่ชัดเจนในรายการงานว่า อันไหนรวม ไม่รวมในราคางาน เผลอคิดตก หก หล่น โดยไม่ได้เจตนา
     -ช่วยให้เจ้าของบ้าน เจ้าของงาน ต่อรองราคาผู้เสนอราคางาน ได้โดยสะดวกขึ้น (อันนี้สำคัญมากกกก ขอบอก ท่านเจ้าของอมยิ้มเลย..หุๆชอบใจสิท่าน)
     ดังนั้นทั้งหลายทั้งปวง จะเห็นได้ว่าการเขียนเอกสาร B.O.Q หรือรายการปริมาณงาน(Bill Of Quantity) นั้น ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย ยกเว้น ผู้ออกแบบบางรายข้างต้นที่ผมบอก คือขี้เกียจ ทำไม่ทัน ไม่มีเวลา....และค่าแบบถูกมาก ไม่คุ้ม....เข้าใจตรงกันนะครับ ท่านทั้งหลาย อย่าไปบีบค่าออกแบบ นักออกแบบตกแต่งภายใน กันนักเลยครับ ค่ากระดาษอีกตั้งหลายแผ่น ที่ท่านเจ้าของบ้านมองไม่เห็น..ผมไม่ได้ประชดเลยนะครับ 555

วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เชื่อหรือไม่ "สถาปนิกออกแบบตกแต่งภายใน" พูดคุยแต่เนิ่นๆ ช่วยท่านประหยัดงบได้เยอะกว่าค่าออกแบบ อีกครับ..?

        ผมมีประสบการณ์ "ออกแบบภายในบ้าน" ที่หลายครั้งพบว่า ท่านเจ้าของบ้านต้องเสียเงินซ้ำซ้อนไปกับ ค่ารื้อถอน ทุบทิ้ง วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ชอบ ไม่ต้องการ ไม่สวยงาม เป็นหลักหมื่นจนเหยียบหลักแสนก็เคยมีนะครับ เช่น รื้อฝ้าเพดานเพื่อเจาะช่องทำหลุมฝ้าใหม่ ทุบผนังบางผนังทิ้งเนื่องจาก พื้นที่ไม่เหมาะกับการใช้งาน หรือทุบสกัดผนัง เพื่อย้าย เดินเพิ่มตำแหน่งปลั๊กสวิทช์ไฟ หรือรื้อ Wall Paper ที่ทางโครงการแถมให้มา แต่ไร้คุณภาพ หรือลายไม่สวยงาม แบบพื้นๆเกินไป สีไม่ถูกใจ หรือบางบ้านที่ผนังทาสีไม่ติด Wall Paper แต่ต้องมาทาสีทับใหม่ อันเนื่องมาจาก การติดตั้งแอร์ หรือติดตั้งงานเฟอร์นิเจอร์ Built In (บางท่านอาจคิดว่า อ้าว!..ก็ให้ช่างรับผิดชอบไปสิ! แล้วท่านคิดว่า ช่างเขาจะไม่คิดบวกเข้าไปในราคางานกับท่านหรือครับ?) และพื้นไม้ลามิเนตที่โครงการแถมมาให้ คุณภาพยอบแยบ ย่างเท้าทีสะดุ้ง ลายไม่ถูกใจ ก็ต้องถูกรื้อ ทั้งหมดนี้รวมๆแล้ว บางครั้งค่ารื้อถอนนี่ แพงกว่าค่าออกแบบเสียอีก ทำเป็นเล่นไปครับ
        เรื่องแบบนี้ป้องกันได้ครับ ถ้าท่านเรียนรู้ไว้ก่อน นั่นคือขั้นตอนการคุยรายละเอียดกับ "สถาปนิกออกแบบตกแต่งภายใน" หรือว่า "Interior Designer" ในช่วงที่บ้านหรืออาคารยังก่อสร้างอยู่ครับ ผมจะไล่ให้ดูเป็นลักษณะของชนิดที่พักอาศัยก่อนนะครับ
        ยอดฮิตเลย..คือ"คอนโดมิเนียม" หรือ "บ้านจัดสรรค์" นั่นเอง เวลาท่านไปซื้อห้องชุดใน"คอนโดมิเนียม" หรือ "บ้านจัดสรรค์"ไม่ว่าจะราคาถูกแพงก็ตาม โดยมากทางโครงการจะระบุ วัสดุอุปกรณ์มาตรฐานของบ้านมาให้ เช่น พื้นไม้ กระเบื้อง ไฟฟ้า ดวงโคม สุขภัณฑ์ สีผนัง ตู้เสื้อผ้า ชุดครัว บลาๆๆ สิ่งเหล่านี้ถ้าเราวางแผนให้ดี ตัดสินใจให้ชัดเจนแต่แรกตั้งแต่เริ่มซื้อ "คอนโดมิเนียม" หรือ "บ้านจัดสรรค์" เราสามารถคุยต่อรองกับทางโครงการผู้ขายได้ครับ โดยส่วนมากเขาจะยอมให้เปลี่ยนแปลง ลดเพิ่มรายละเอียดได้ครับ ยกเว้นโครงการที่มีราคาถูกจริงๆ อาจจะไม่ยอมเพื่อความสะดวกของเขาครับ เพียงแต่ว่า...ส่วนมากแล้ว ถ้าเป็นรายการลดทอน เขาจะคืนเป็นเงินค่าของให้เราค่อนข้างน้อย แต่..บอกได้เลยครับว่า ดีกว่ามาเสียค่ารื้อถอน ให้เสียหาย ลามวุ่นวายในภายหลังครับ โดยที่รายละเอียดเหล่านี้ ควรผ่านการพูดคุยปรึกษากับ "สถาปนิกออกแบบตกแต่งภายใน" ตั้งแต่ตัดขั้นตอนสินใจซื้อและสรุปเลือกแบบบ้าน หรือห้องชุดแล้ว และชัดเจนว่า ต้องการใช้งาน "สถาปนิกออกแบบตกแต่งภายใน" ให้เข้ามาช่วยดูช่วยเลือกตั้งแต่เห็นแบบแปลนบ้าน หรือห้องเลยครับ (แต่ต้องพูดคุยกับผู้ออกแบบตกแต่งภายในแล้วนะครับ ในรายละเอียดการออกแบบภายในแล้วด้วยนะครับ อาจจะยังไม่ 100 % ก็ไม่เป็นไรครับ แต่ควรให้ใกล้เคียงที่สุด)
       อันดับแรกเลยครับ แบบแปลนห้อง จะกั้นจะยกเลิกผนังบริเวณใดคิดให้ดีครับ สีผนัง หรือ Wall Paper ถ้าท่านมีงบใช้ของดี หรือใช้งานดีไซน์ ตรงนี้แนะนำให้ ยกเลิกเหลือแค่เก็บงานทาสีรองพิ้นเลยครับ ที่เหลือไว้ให้งานออกแบบจัดการให้ดีกว่าครับ
       อันดับต่อมา จุดตำแหน่งสวิทช์ ปลั๊กไฟ ดวงโคมส่องสว่าง แอร์จะลดจะเพิ่ม จะย้าย ดูให้ดีในช่วงที่กำลังออกแบบภายใน ให้ผู้ออกแบบภายใน ทำตรงนี้ให้ทันกับเดทไลน์งานก่อสร้างได้ครับ
       อันดับต่อมา ห้องน้ำครับ ส่วนมากที่เจอบ่อยๆเลยคือการยกเลิกอ่างอาบน้ำเป็นส่วนยืนอาบครับ และก็การเลือกแบบกระเบื้อง
       ต่อมาก็ชุดครัวและตู้เสื้อผ้าครับ เดี๋ยวนี้มักจะแถมมาให้ด้วย แต่ดูให้ดีครับว่ารับได้หรือไม่ ทั้งวัสดุและอุปกรณ์ ยกเลิกได้ครับ
       ถัดมาก็เป็นเรื่องพิ้นครับ จะเอาไม้จริง ไม้ปาร์เก้ หิน กระเบื้อง เอาให้แน่ครับ
       สุดท้าย ฝ้าเพดานครับ ออกแบบภายในให้เสร็จก่อนครับ ว่าจะมีหลุม มีซ่อนไฟ จะเจาะจะเหลี่ยม จะกลม เอาให้แน่ชัดก่อนดีกว่ามารื้อทีหลังครับ
       โดยสรุปก็ประมาณนี้ครับ ส่วนรายละเอียดแต่ละที่แต่ละโครงการ อาจจะยืดหยุ่นให้ท่าน มากน้อยไม่เท่ากันก็ว่ากันไปครับ ส่วนท่านที่จ้างผู้รับเหมาก่อสร้างสร้างบ้านให้ จะโดยสถาปนิก หรือสถาปนึก (คือ ท่านหรือผู้รับเหมา หรือเจ้าหน้าที่เขต นึกให้ท่าน) จะง่ายกว่าครับ ในการที่จะเลือกสรุป เอาหรือไม่เอา วัสดุอุปกรณ์ที่ว่ามาทั้งหมด โดยผ่านการปรึกษษากับผู้ออกแบบภายในครับ ช่วยท่านประหยัดได้มากว่า ค่าออกแบบจริงๆนะครับ