วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

"ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน" คัดเลือก อย่างไรดี?

         มีคำถามจากท่าน เจ้าของบ้าน เจ้าของงาน ที่ผมออกแบบตกแต่งภายในให้แทบทุกงาน ถามว่า "จะพิจารณาคัดเลือก ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน อย่างไร ในกรณีที่ไม่คุ้นเคยใช้งานกันมาก่อน" ...เอ่อคำถามนี้ผมเชื่อว่าโดนใจหลายๆท่าน คงต้องหูผึ่ง เอียงหูมาฟังกันบ้างละครับ งั้นมาดูกันครับ
         ปกติแล้วถ้าท่านเจ้าของบ้าน ว่าจ้าง"นักออกแบบตกแต่งภายใน"ให้ทำงานให้แล้ว กระบวนการคัดเลือก"ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน" จะต้องผ่านขั้นตอนการรับแบบตกแต่งภายใน และมีเอกสารประกอบการคิดราคางานให้ใช้ลงรายการเสนอราคาที่เรียกว่า "B.O.Q  หรือรายการปริมาณงาน(Bill Of Quantity)" (ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ตามลิ้งค์นี้ครับhttp://designatelierinterior.blogspot.com/2015/02/boq-bill-of-quantity.html)หลังจากที่ผู้รับเหมา(ปกติควรมี3-4เจ้า และไม่ควรมากไปกว่านี้นะครับ)ส่งราคางานกลับมาให้ ซึ่งต้องอยู่บนพื้นฐานเอกสารเดียวกันที่ให้ไปนะครับ กระบวนการพิจารณาคัดเลือกก็จะเริ่มที่ตรงนี้ ซึ่งหลักการนี้ท่านเจ้าของบ้านที่ไม่ได้ว่าจ้าง"นักออกแบบตกแต่งภายใน" ก็สามารถนำไปใช้ได้นะครับ แม้ว่าจะไม่ได้เทียบเท่าการใช้นักออกแบบก็ตาม มาเริ่มกันทีละข้อครับ
       1.ให้ดูจากความใส่ใจในการทำงานตั้งแต่เมื่อได้รับแบบเสนอราคาไปครับ ว่ามีFeedback อย่างไร ใส่ใจสอบถาม หรือมีประเด็นสอบถามเพิ่มเติมมามากแค่ไหน (ข้อนี้ส่วนใหญ่ "นักออกแบบตกแต่งภายใน" จะทราบครับ แต่ถ้าแบบงานไม่ยุ่งยากซับซ้อนมาก ก็อาจจะไม่มี Feedback กลับมาครับ) บางงานก็ควรมาดูสถานที่จริงที่จะต้องทำงานครับ เพื่อประเมิณหน้างานว่ามีความยากง่าย และเผื่อมีอะไรตกหล่นจากแบบที่ต้องคิดราคางาน และความตรงต่อเวลาในเวลาที่นัดหมายให้ส่งราคางาน หากช้ามากไปกว่าที่นัดหมายมากนี่ ผมเพ่งโทษไว้อันดับแรกเลยครับ
        2.ใบเสนอราคางานที่ส่งกลับมา มีความถูกต้องตามที่ให้ไปมากน้อยแค่ไหน อย่าไปหลงกับตัวเลขราคาที่ถูกแสนถูกใจท่านนะครับ เพราะมีหลายๆอย่างที่ยังต้องพิจารณาประกอบ (ข้อสังเกตุ ส่วนมากแล้วผู้รับเหมางานตกแต่งภายในที่ดี มักจะเสนอมาละเอียดกว่ารายการที่ให้ไปอีกครับ) นำรายการราคาทุกเจ้ามาเปรียบเทียบกันทุกๆรายการ ทีนี้ท่านจะเห็นความแตกต่าง ตกหล่น มาเพื่อตั้งคำถามกลับไปครับ 
       3.ปกติแล้วถ้ามีเจ้าไหนเสนอราคามาโดดจากเจ้าอื่น ไม่ว่าจะถูกกว่าหรือแพงกว่ามากๆ อย่าเพิ่งด่วนเลือกหรือตัดออกนะครับ แต่เป็นข้อสังเกตุว่า ให้พิจารณาให้มากๆว่าเพราะอะไร เช่นถ้าถูกมากๆ อาจมีการเสนอราคาตกหล่น หรือบิดเบือนทางเทคนิค หรือปริมาณจำนวนไม่ถูกต้อง กลับกันเจ้าที่แพงมากไปก็เช่นกันครับ อาจคิดจำนวนผิดพลาดมากเกินไปได้ครับ
        4.เมื่ิอได้ข้อสรุปเรื่องราคาแล้ว ตรงนี้สำคัญที่สุดคือ ท่านควรจะไปดูผลงานของทุกๆเจ้าที่เสนอราคางานมาว่า งานที่เขากำลังทำอยู่ที่อื่นผลงานเป็นอย่างไร และควรจะเป็นงานที่มีรูปแบบที่มีลักษณะ ประเภทงานที่เทียบเคียงกันได้นะครับ เช่นบ้านท่านเป็นแบบงานโมเดิร์นงานสีพ่น ท่านก็ควรจะเห็นงานแบบเดียวกัน ถ้าไม่มีจริงๆถึงพิจารณาเทียบเคียงไป และสิ่งที่ต้องไปดูคือ
        -งานไม้ การแบ่งช่องไฟระยะห่างของบานแต่ละบานไม่ห่างจนหมดสวยมีความสม่ำเสมอสวยงาม การต่อไม้ชนไม้ มีรอยต่อที่ราบลื่นไม่สดุ้ง หลายเจ้าเสนอราคางานมาถูกมักสอบตกข้อนี้ครับ
      -งานสีถ้าเป็นสีพ่นที่เสร็จแล้ว ลูบดูแล้วต้องเรียบเนียนไม่สากมือ มองดูไม่เห็นร่องรอยหลุมร่องของงานไม้แต่แต่นิดเดียว ถึงจะเรียกว่างานสีพ่นเต็มเสี้ยนไม้ 
      -งานสีที่เป็นสีงานไม้โชว์ลายไม้ ลูบแล้วก็ต้องไม่สากมือมีความลื่นมือ เพียงแต่ว่ายังเห็นว่าเป็นไม้โชว์ลาย หากเป็นงานเท็คนิคที่ไม่ลงเต็มเสี้ยนไม้จึงจะเห็นว่ามีร่องเสี้ยนไม้ยุบลงไปในเสี้ยนเล็กน้อย
     -หน้างาน มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากแค่ไหน การจัดวางกองวัสดุ เครื่องไม้เครื่องมือ ขณะทำงาน การปูวัสดุปกป้องพื้นที่ที่ทำงาน เช่นพื้นเดิม มีการปูไม้อัด หรือกระดาษลูกฟูกรองป้องกันไว้หรือไม่ มีการเอาวัสดุคลุมปกป้องอุปกรณ์สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำไว้ดีหรือไม่ ภาพเหล่านี้บอกได้ครับถึงเรื่องการบริหารจัดการหน่วยงาน
    5.หากเป็นไปได้ท่านควรแอบสอบถามจากเจ้าของบ้านที่ไปดูหน้างาน ถึงความพึงพอใจที่มีต่อผู้รับเหมารายนั้นๆ รวมถึงความตรงต่อเวลาในสัญญาการทำงานที่ตกลงกันไว้แต่แรก
    6.ถ้างานของท่านเป็นงานที่ใหญ่และมีปริมาณงานมากๆ ผมแนะนำให้ท่านไปสำรวจถึงที่ทำงาน โรงงาน ของผู้รับเหมางานด้วยยิ่งดีเลยครับ แต่ถ้างานท่านเล็กๆ ท่านอาจได้ผู้รับเหมาที่มีโรงงานแบบห้องแถวหรือเรือนสังกะสี อันนี้ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณานะครับ ใช่ว่าจะไม่ดี ที่ดีก็มีครับ
       บทสรุปคือ หลักเกณฑ์เหล่านี้คงไม่ตายตัว100% แต่พอใช้เป็นเกณฑ์เลือกตัดสินใจได้ดีกว่าไม่มีหลักนะครับท่านเจ้าของบ้าน เจ้าของงานทั้งหลาย โชคดีครับ

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558

ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน กับ เจ้าของบ้าน ข้อควรระวัง!!! Part 2/2

        ต่อจากบทความที่แล้วกันนะครับ มาเริ่มกันที่ปัญหาคู่กรณีหลังกันเลยครับ
        2.ปัญหาที่เกิดจาก เจ้าของบ้าน เจ้าของงาน

           -เจ้าของบ้านปรับเปลี่ยน แก้ไขงานบ่อย...แน่นอนครับ ช่างย่อมไม่ค่อยชอบการแก้ไขงาน โดยเฉพาะงานที่ทำไปเยอะแล้ว เพราะบางครั้งงานช้ำ แก้แล้วเก็บงานไม่สวย อีกทั้งบ่อยครั้งที่แก้แล้วเรียกเก็บตังก็ไม่กล้า กลัวโดนหาว่าเคี่ยว ปัญหาการแก้ไขเปลี่ยนใจเปลี่ยนแบบนี่ โดยมากมักเกิดกับท่านเจ้าของบ้านที่ ดูแบบ อ่านแบบไม่ค่อยออก แม้จะเป็นแบบรูปภาพงาน 3 มิติ 3D Perspective ก็ตาม คือ เข้าใจต่อเมื่อเห็นงานจริง มีเยอะนะครับทำเล่นไป
          -เจ้าของบ้าน ขาดความไว้วางใจ ไม่ค่อยมั่นใจตัวเอง หรือมั่นใจในตัวเองมากไป คิดว่าตัวเองรู้มากกว่า เลยพาลขาดความมั่นใจในช่าง และบ่อยครั้งที่ลามมาถึงผู้ออกแบบด้วย อาการนี้สังเกตุได้ว่า เจ้าของบ้านมักแสดงอาการออกมาในรูปแบบ ลังเล โลเล และถามกลับไปกลับมา ถามไปทั่วแม้คนนอกวง ผลเสียของการทำแบบนี้คือ ได้ข้อมูลมาเยอะเกิน จริงบ้าง มั่วบ้าง เพราะบ่อยครั้งที่คนตอบ ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือรู้ไม่จริง ส่งผลให้บางครั้งเกิดอาการจับผิดช่าง จนทำงานยาก เกิดประเด็นให้ได้ทะเลาะกันภายหลัง เรื่องมารยาท ความไว้วางใจในวิชาชีพนี่ ท่านเจ้าของบ้านทั้งหลาย ควรระมัดระวังไว้บ้างก็ดีนะครับ เพราะแม้แต่นักออกแบบเองก็โดนกันบ่อยๆ คือแนะนำอะไรไป มีการเอาไปสอบถามคนอื่น ครั้งหนึ่งที่ผมเคยไปหาซื้อของแต่งบ้านกับลูกค้าผู้มากจะกินท่านหนึ่งในต่างประเทศ ขณะที่อยู่ในร้านขายของสินค้าแบรนด์ดังของยุโรปร้านหนึ่ง ผมได้เลือกของให้ลูกค้าท่านนั้น ปรากฎว่า ด้วยความเคยชินในการบริโภคแบบไทยๆ ท่านได้หันไปถามผู้ขายสินค้าว่า "คุณเห็นว่าเป็นอย่างไร แบบนี้สวยเหมาะมั๊ย" เล่นเอาผู้ขายงง...? และชี้มือมาที่ผมพร้อมกับพูดว่า Your's Designer ส่วนท่านเจ้าของบ้านก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปชั่วขณะ เงิบกันไปครับ ประมาณว่า จ้างคนออกแบบมาทำไมไม่ถามหล่ะ...อืมมม..นั่นสินะครับ
           -เจ้าของบ้านเข้าหน้างานบ่อยมากกกก...เข้าได้เกือบทุกวัน เคยเจอหรือปล่าวครับ สำหรับผม เจอออกบ่อยครับ เอ..แล้วเกี่ยวอะไรกันละครับ..? คือปกติของท่านเจ้าของบ้าน ก็มักอยากทราบความก้าวหน้าของงาน เห็นคุณภาพงาน ก็ย่อมต้องอยากเข้าไปดูไปเห็นเป็นธรรมดาน่ะครับ ซึ่งส่วนมากก็จะเข้าไปดูไม่แน่ไม่นอน ส่วนมากท่านเจ้าของบ้านมักจะมีภาระกิจทำให้เข้าไปดูงานได้ไม่บ่อยครับ แต่มีท่านเจ้าของบ้านบางท่าน สามารถครับ คือท่านอยู่ใกล้หน้างานมากกก ขนาดเข้าได้ทุกวัน ปัญหาคือ..? ยิ่งเข้าหน้างานได้บ่อยมากเท่าไหร่ ยิ่งเจอปัญหาความไม่ถูกใจ ถูกตา ถูกอารมณ์มากเท่านั้น เพราะผมบอกได้เลยว่า ช่างแรงงานในไทย แม้จะหลายสัญชาติก็ตาม มีพฤติกรรมในการทำงานที่ค่อนข้าง ขัดหูขัดตา เหล่าคนทำงานใช้หัวคิดทั้งหลาย ทำให้ขัดใจพาลทะเลาะอยู่เยอะครับ ประเด็นนี้คงต้องบอกว่า เลี่ยงได้เลี่ยงเถอะครับ ต้องทำใจอย่างเดียวครับถ้าไม่อยากเจอภาพบาดใจ บาดอารมณ์ (ดั่งละครน้ำเสียทั้งหลาย)
           -เจ้าของบ้านเหนียวหนี้ จ่ายเงินล่าช้า ปัญหานี้ส่วนมากมักเกิดกับงาน ตกแต่งภายใน ที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ธุรกิจ ร้านค้า พาณิชย์ทั้งหลายครับ ถ้าเป็นงานบ้านพักอาศัย อาจจะน้อยกว่า แต่ใช่ว่าไม่มีนะครับ ซึ่งการจ่ายเงินล่าช้า ดึงเงิน มักจะพ่วงไปกับงานที่เร่งรีบ เวลาจำกัด ซึ่งกลายเป็นข้ออ้างให้เจ้าของงาน เจ้าของบ้านใช้เป็นจุดอ่อน ให้ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน เร่งรีบทำงานไปก่อน แล้วหาเหตุจ่ายล่าช้า ไปจนกระทั่งเบี้ยวไม่จ่ายก็มีบ่อยครับ ผู้รับเหมางานตกแต่งภายในจะกลัวกันมากกับเคสแบบนี้ครับ
          เอาคร่าวๆสำหรับกรณีท่านเจ้าของบ้าน เจ้าของงาน ก็มีประมาณนี้ครับ มากกว่านี้เดี๋ยวท่านเจ้าของบ้าน พาลเหม็นขี้หน้า แล้วผมจะลำบากทำมาหากินครับ สวัสดี