วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2562

Idea ตกแต่งภายใน "บ้านเดี่ยวรามอินทรา บางเขน" สไตล์ร่วมสมัย Part 1

               
             ผมมีงานออกแบบตกแต่งภายในบ้าน ดร.หนุ่มท่านหนึ่ง อยู่แถวๆย่านลาดปลาเค้า รามอินทรา เมื่อหลายปีก่อน เป็นสไตล์คอนเท็มโพลารี่ คือชอบแบบงานสไตล์คลาสสิคเรียบง่าย ไม่โมเดิร์น แต่ก็ไม่คิ้วบัวเยอะๆ ซึ่งผิดกับอายุอานามท่านเจ้าของบ้านมาก ผมมองว่าก็ไม่แปลกนะครับสำหรับบางท่านที่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอกแถบยุโรป อเมริกา เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น สร้างใหม่ สำหรับหนุ่มโสด มีคู่แต่คงยังไม่ได้แต่งงานครับ ขนาดห้องนอน 3 ห้อง ห้องทำงาน 1 ห้องดูหนังฟังเพลง 1 ห้องนอนจะทำเตรียมไว้เผื่อเด็กในอนาคตเลย สองห้อง ลองมาดูไอเดียกันนะครับ

เริ่มจากแบบแปลนบ้านชั้นล่างก่อนละกันครับ ซ้ายมือเป็นห้องรับแขก นั่งเล่น ส่วนขวามือเป็นห้องทานอาหารขนาด 8 ที่นั่ง ต่อเนื่องกับส่วนแพนทรี่ ที่สั่งทำสำเร็จรูป

มาดูมุมมองในส่วนห้องรับแขกกันครับ มองจากประตูทางเข้าไปภายในห้อง พื้นปูไม้สักทำสีออกโอ๊กแดงอมส้ม ไม่มืดไม่สว่างตามความชอบเจ้าของบ้าน จัดวางชุดรับแขกสองข้างโดยเว้นช่องทางเดินไว้ มองไปจะเห็นมุมวางทีวี ทาสีส้มที่นังเพื่อให้ขับจุดเด่นของสายตา กั้นส่วนของข้างบันไดด้วยผนังกรุกระจกใสบุผ้าด้านใน ให้แลดูโปร่งแต่ยังดูมีอะไรพรางบ้างนิดหน่อย ขวามือมองไปจะเห็นส่วนของห้องทานอาหารที่กั้นห้องไว้แบบมองเห็นถึงกันอยู่ ตรงนี้ช่วยทำให้ห้องดูโล่งกว้างไม่อึดอัดทึบตันได้เป็นอย่างดีเลยครับ
มุมนี้มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าบ้านครับ เป็นบานไม้สักเปิดคู่ ที่เห็นสองข้างซ้านขวา เป็นบานเลื่อนตัวมุ้งกันแมลงครับ
ระหว่างห้องรับแขกกับห้องทานอาหาร เชื่อมถึงกันด้วยประตูบานเลื่อนไม้สัก กรุกระจกใส ช่วยเรื่องความเป็นสัดส่วน กันแอร์ กันกลิ่นรบกวนได้ดีเลยครับ

ห้องทานอาหารปูพื้นด้วยหินอ่อนสีครีม สลับลายเน้นที่บริเวณโตีะอาหารให้แลดูอลังการมากยิ่งขึ้น ตัวโต๊ะออกแบบให้เป็นแท่นกรุหินอ่อนทั้งตัวสีดำเกล็ดทอง ดูหนักแน่นหรูหรา ด้านหลังในสุดของห้องวางตู้ลอยที่ออกแบบให้โดยเฉพาะลงตัวกับพื้นที่เต็มผนังใต้หน้าต่าง เน้นเพดานห้องด้วยการเจาะทำหลุมฝ้าซ่อนหลืบไฟ

มาดูแบบแปลนชั้นสองกันครับ ขึ้นบันไดมาจะเจอห้องนอนใหญ่อยู่ด้านหน้า ห้องนอนเด็กจะอยู่สองข้างบันได และห้องทำงานกับห้องดูหนังถัดมา


โถงบันไดชั้นสองครับ ตรงชานพักออกแบบให้เป็นกรอบกระจกเงาสูง ล้อกันไปกับช่องหน้าต่างยาวด้านข้าง ด้านบนวางตู้เตี้ยสีเข้มเรียบหรู กับกระจกเงาวงรี ลดความแข็งของงานเหลี่ยมๆครับ
ขอจบ Part 1 ของงานนี้ก่อนนะครับ รอติดตาม Part 2 สำหรับห้องที่เหลือครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2562

ตกแต่งภายใน ต้องจ้างใครดี (Part 3)

    ว่ากันมายาวจนตอนที่สามแล้วนะครับ มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้างไม่ว่ากันนะครับ


อื่นๆเช่น ดารา นักออกแบบสายอื่นๆ(บลาๆๆๆ)
    ข้อนี้ขอเหมารวมๆละกันครับ มีดาราบางท่าน ไม่ได้จบสายงานด้าน "Interior Designer" มาโดยตรง แต่ไม่แน่ใจว่า ท่านจบเกี่ยวข้องทางด้านศิลป ด้านไหนมาหรือปล่าวนะครับ ก็เริ่มจากชอบจัดบ้าน แต่งบ้าน เริ่มทำให้คนในวงการ จนภายหลังได้ลงนิตยสารตกแต่งบ้าน เลยเถิดไปจนน่าจะทำเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลัก อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ก็ทำจนเป็นเรื่องเป็นราวไปแล้ว ถ้าท่านเคยได้ยินคำว่า "Decorator" ก็น่าจะเข้าข่ายประเภทนี้ละครับ คือชอบและรัก "การตกแต่งบ้าน" ทำบ่อยๆเข้า จนชำนาญ มีทักษะ กลายเป็นนักแต่งบ้านตัวยง ก็ประเภทหนึีง
   ส่วนอีกประเภทก็คือ คนที่ทำงานสายงานศิลปอื่นๆ แต่อาศัยหัวศิลป บวกความชอบ ทำแล้วมีคนเห็น เอามาเผยแพร่ จนคนชอบก็มี เพื่อนผมท่านหนึ่ง จบด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ ทำไปทำมา หันเหมารับงาน "Interior Design" จนเป็นงานหลักไปแล้ว
   อีกประเภทก็ พวกที่จบมาจากสถาบันที่รับสอนวิชา ออกแบบตกแต่งภายใน ทั้งคอร์สเล็ก คอร์สใหญ๋ ทั้งที่รับรอง และไม่รับรอง อันนี้แล้วแต่ท่านจะไปเจอะเจอกันนะครับ
.........................................................................................
 
        สรุปว่า....อาชีพนักออกแบบ ตกแต่งภายใน นั้น คงจะคล้ายๆกับอาชีพอื่นๆ อีกหลายอาชีพ ที่บ้านเรานั้น ทำกันโดยไม่มีการควบคุม(ยกเว้นหน่วยงานบางหน่วยงาน ถ้าคิดจะรับงานเขา เขาจะมีมาตรฐาน การตรวจสอบผู้รับงาน ว่าต้องมีดีกรี ขนาดไหน เหมือนบางคนไม่ได้จบด้านหมอศัลมา แต่รับฉีดโบท๊อกส์ ยังทำกันไปได้ ประเทศสาระขันนี่แหล่ะ) เอาเป็นว่า พิจารณาเลือกใช้กันตามสะดวกนะครับ แต่ข้อที่ควรพิจารณา ก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้ใครก็ตาม ท่านควรจะ
    1.สำรวจความต้องการของท่านก่อนนะครับ ว่าท่านรับได้กับการจ่ายค่าใช้บริการแบบไหน ประหยัดงบมากยิ่งเสี่ยง(ของดีแต่ถูก มี แต่หายากหน่อย) พอมีงบจ่ายมาก เสี่ยงน้อย(แต่ใช่ว่าไม่มีความเสี่ยง) ลองดูข้อถัดไปครับ
    2.เห็นผลงานการออกแบบที่ผ่านมาก่อนนะครับว่า สวยงามถูกใจท่านรึยัง ดูทั้งงานออกแบบและงานที่เสร็จแล้วจริงๆ ยิ่งไปดูสถานที่จริงที่เป็นผลงานของผู้ที่ท่านพึงใจได้ยิ่งดี ควรมีให้ดูนะครับ
    3.คุยรายละเอียดเรื่อง วิธีการทำงาน ขั้นตอนงาน ค่าใช้จ่ายที่มี ขั้นตอนการจ่ายเงิน ให้เรียบร้อยก่อนตกลงปลงใจว่าจ้างให้ทำงานนะครับ
    4.สำหรับคนงบน้อยจริงๆที่ไม่ต้องการจ่ายค่าออกแบบ แต่อยากได้งานที่ผ่านการออกแบบมาจริงๆ (เฉพาะงานบ้าน คอนโด ขนาดย่อมๆ) ผมแนะนำให้เอาแบบแปลน ไปให้บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์เจ้าดังในห้าง นะครับ เขาออกแบบให้ท่านฟรี บนเงื่อนไข ข้อจำกัดบางอย่าง และในงบประมาณที่ท่านตัดสินใจได้ ปรับเปลี่ยนได้ จนท่านพอใจ (แต่อย่าเปลี่ยนบ่อยมาก ประเภทเปลี่ยนไป เปลี่ยนมานี่ เด็กที่เขาทำงานให้ท่าน จะพาลเส้นโลหิตในสมองปูดบวมได้ครับ)
   ครั้งหน้า...ผมจะขยายความเรื่อง บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์ที่รับออกแบบให้ฟรี นะครับ ว่ามีข้อควรรู้ในการเลือกใช้บริการอย่างไร
   
 

ตกแต่งภายใน ต้องจ้างใครดี (Part 2)

มาว่ากันต่อจากเนื้อหาคราวที่แล้วกันครับ


ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน(Contractor)
   อันที่จริงแล้ว ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะครับว่า "ผู้รับเหมางาน" แต่ความจริงก็คือ มีผู้รับเหมางานหลายๆราย พยายามรวบงานออกแบบไปด้วย ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจว่า..."กลัวลูกค้าผู้ว่าจ้างเปลืองตังค์ค่าออกแบบ(อันที่จริงกลัวไม่ได้งานรับเหมาน่ะครับ)เลยเสนอว่า รับออกแบบให้ฟรีด้วย ไม่คิดค่าออกแบบ บ้างถึงกับยอมออกแบบให้ดูก่อน(มีเยอะนะครับ) ซึ่งถ้าท่านลูกค้าเห็นแก่ของไม่เสียตังค์ ผู้รับเหมางานก็มักจะไปไหว้วานทีมงานที่พอรู้จักกัน เช่นดีหน่อยก็วาน "Intrior Designer" ดีลงมาหน่อยก็ "Draftman" ซึ่งโดยมากผู้รับเหมางาน เขาจะบอกท่านว่า ใช้ช่างแบบ(อันนี้ ผู้รับเหมาเขานิยมเรียก "Interior Designer" ว่า "ช่างแบบ" นะครับ เท่ห์ชะมัดนายช่าง) ซึ่งกรณีนี้ ไม่ใช่ว่าไม่มียอดฝีมือแฝงอยู่ในระบบนี้ มีครับ แต่ท่านก็ต้องมีโชค มีดวง มีบารมี ในการใช้งานผู้คนอยู่พอสมควรนะครับ
  -ข้อดีคือ ถ้าท่านโชคดี ท่านอาจได้ราคางานที่ถูกใจท่าน..ข้อนี้ตรงประเด็นสุดๆ
  -ข้อเสียคือ (ให้ท่านลองเจอกับตัวเองดูดีกว่า) ประเด็นแรกเลยคือท่านไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ราคาที่ผู้รับเหมาเสนอมานั้น ถูก..ใจท่านจริงหรือปล่าว  มีบางท่านคิดว่าเอาแบบไปให้ผู้รับเหมาเจ้าอื่น เสนอราคามาเทียบก็ได้...ช้าก่อนนะครับ แบบที่เขาออกแบบมาให้ท่านฟรีนั้น ส่วนมาก...จะไม่ระบุรายละเอียดของงานให้ท่านเอาไปใช้ง่ายๆหรอกครับ (ของฟรีใครว่าไม่มีในโลก ผมขอเถียงครับ) และแม้ว่าจะมีผู้รับเหมาเจ้าใหม่มารับแบบนั้นไปเสนอราคา ด้วยความอยากได้งาน...ผลคือเขาจะคิดราคางานเพื่อให้ได้งานยังไงดีละครับ ไม่ยากนะครับลองจินตนาการเอาดูเถอะครับ..สเป็คไม่มี รายละเอียดไม่มี....สนุกละครับ
   แต่พูดไปเถอะครับ ผมอยู่วงการนี้มายี่สิบกว่าปีแล้ว(เป็นมนุษย์ลุง) ตั้งแต่เริ่มทำงานปีแรก จนปัจจุบันนี้ เคสแบบนี้ไม่เคยหมดไปครับ ใครเคยมีประสพการณ์ที่ดี จบสวย ผมว่าคุณเนี่ยโชคดีสุดๆ ทำบุญเก่ามาดีครับ ใครเป็นผู้รับเหมาที่ใช้วิธีนี้อยู่ ก็อย่าโกรธผมเลยครับ ผมไม่ได้ว่าไม่ดีทั้งหมด คนที่ดีๆมีความรับผิดชอบก็มีครับ เหมือนท่านที่เป็น "ช่างแบบ" ไม่ดีก็มีครับ ไม่เหมารวมเข่งครับ (แฮะๆตบหัวแล้วลูบหลังเฉยเลย)

ช่างเขียนแบบ(Draftman)
   อ่านว่า ช่าง..เขียน..แบบ นะครับ ไม่ใช่ "ช่างแบบ"ที่ผู้รับเหมางานเขาหมายความถึง ที่จริงช่างเขียนแบบ นี่โดยสายงานแล้วจัดได้ว่า เป็นพี่เป็นน้องกันกับ "Interior Designer" เรียกได้ว่าผีเน่ากับโลงผุ...เอ้ย..ไม่ใช่ครับ เป็นพี่เป็นน้องกันดีแล้วครับ คือโดยขั้นตอนงานหลังจาก "Interior Designer" ออกแบบหน้าตางานมาให้ท่านเจ้าของบ้านดูแล้ว ตกลงเห็นชอบแล้ว คิดว่าจะไม่แก้ไขแล้ว(โดยหลักๆ..จะไม่แก้ไข..เล็กน้อยอาจจะแก้..หุหุ) "Interior Designer" ก็จะส่งไม้ต่อให้ ช่างเขียนแบบ ไปเขียนแบบขยายรายละเอียด ระบุขนาดสัดส่วน ชนิด เสป็ค ของวัสดุต่างๆลงในแบบ เพื่อให้เป็นแบบเอกสารกำกับงานกับ ผู้รับเหมางาน เสนอราคางาน และใช้ทำงาน
      ทีนี้ ด้วยความที่ช่างเขียนแบบ ทีแก่พรรษางานหน่อย เขาเห็นงานออกแบบผ่านตามากๆเข้า (และบ้างครั้ง เหล่าผู้กล้า "Interior Designer" ทำงานไม่ทัน ก็มักจะเป็นผู้โยนงานให้ช่วย) จึงเป็นที่มาว่า บ้างครั้งเจอผู้รับเหมางาน ไหว้วาน ให้ช่วยออกแบบงานในราคาฉันมิตรภาพให้หน่อย เมื่อสายน้ำมาบรรจบพบกัน ในคืนร้าวราน..(อย่าซีเรียสครับ) จึงจับมือร่วมหอลงโรงกันเสร็จสมดังใจครับ
  -ข้อดีคือ..ท่านไปคิดเอาเองเหอะครับ แต่ผมจะบอกว่า...ผมมีลูกน้องเก่าผมบางคน ที่เป็นช่างเขียนแบบ นี่แหล่ะครับ แกมีใจรัก ขยันใฝ่หาทักษะความรู้ จนได้รับความไว้วางใจ ก้าวข้ามไปทำงานออกแบบ ซึ่งผมก็ว่าสอบผ่านใช้ได้เลยครับ
  -ข้อเสียคือ..ความเสี่ยงยังคงมีอยู่...ตาดีได้..ตาร้าย..ต้องไปรักษานะครับ



ตกแต่งภายใน ต้องจ้างใครดี (Part 1)

         สืบเนื่องจากบทความที่แล้วนะครับ "คนรักบ้านทั้งหลาย" ทำไม...ใครๆก็รับงานออกแบบตกแต่งภายในกันได้
  -สถาปนิก "Architect"
  -สถาปนิกออกแบบภายใน เรียกสั้นๆ "Interior" หรือ (มัณฑนากร)
  -ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน "Interior Contractor"
  -ดร๊าฟแมน "Draftman"หรือ (ช่างเขียนแบบตกแต่งภายใน)
  -ดารา หรือ บลาๆๆ "Etc"
         มาดูกันครับว่า แล้วจะตัดสินใจเลือกใช้ใคร อย่างไรดี
                                           
สถาปนิก หรือ "Architect"
    ถ้าท่านจ้างสถาปนิก เป็นผู้ออกแบบตัวบ้าน หรือาคารของท่านอยู่แล้ว ส่วนใหญ่สถาปนิก มักจะเสนองานออกแบบภายในให้ท่านด้วย ขึ้นอยู่กับว่าท่านจะพึงพอใจเลือกใช้หรือไม่ โดยที่สถาปนิกนั้น ก็จะมีทั้งออกแบบเองเลย หรือมีทีมงานออกแบบภายในเอง หรือส่งต่อให้เพื่อนฝูงที่เป็น Interior Designer รับช่วงต่อ
-ข้อดีคือ การประสานงาน รวมถึงขั้นตอนการออกแบบภายใน จะสอดคล้องกัน ลดการทำงานแก้ไขลง เพราะสถาปนิกจะประสานงานกับ Interior ในเรื่องการจัดวางแบบแปลนเฟอร์นิเจอร์ ตั้งแต่เนิ่นๆ (ทั้งนี้คือบนเงื่อนไข ท่านได้คนรับผิดชอบงานนะครับ)
-ข้อเสียคือ อันนี้เหมาะกับผู้มีตังเยอะหน่อยนะครับ...อ้าว..ก็เพราะใครที่สามารถจ้างนักออกแบบได้ครบทั้งกระบวนการ โดยมากแล้ว..กระเป๋าหนักครับ และถ้าสถาปนิกท่านออกแบบภายในเอง อันนี้ท่านต้องขอดูผลงานด้วยนะครับ ถูกใจกันแล้วก็...จรดปากกาเซ็นสัญญาได้เลยครับ



Interior Designer หรือ "สถาปนิกออกแบบภายใน" หรือ "มัณฑนากร"
    Interior โดยหลักแล้วเป็นผู้รับไม้ต่อโดยตรงจากสถาปนิกครับ โดยที่งานออกแบบภายในนั้น มีหลากหลายมาก เช่นสำนักงาน บ้านพักอาศัย คอนโด โรงแรม รีสอร์ท โรงพยาบาล ร้านค้า ร้านอาหาร บลาๆๆ
จะเห็นว่ามีงานปลีกย่อยที่เกินกว่าสถาปนิกจะรับมือได้ เพราะงาน Interior Design นั้นค่อนข้างละเอียด จุกจิกมากกกก เช่น งานร้านอาหาร โรงพยาบาล บลาๆๆ และโดยเนื้อหาของงานจริงๆแล้ว จุกจิกถึงขั้นต้องเลือกวัสดุ อุปกรณ์ แทบทุกอย่างให้ท่านเจ้าจองงานอนุมัติ เช่น เลือกผ้าม่าน แบบม่าน อุปกรณ์มือจับเฟอร์นิเจอร์...เอาไว้จะเล่าให้ฟังถึงรายละเอียดงาน หน้าที่ ของ Interior Designer นะครับ
 -ข้อดีคือ เชี่ยวชาญในงานออกแบบภายในไงครับ
 -ข้อเสีย ก็เหมือนๆทุกอาชีพละครับ คือ ถ้าท่านโชคร้าย ได้คนไม่มีคุณภาพ     ท่านจะพาลหัวเสียเอาสิครับ