My Interior Design Blog U Can Visit My Port Folio At IG: datelier_interior or for Animation at Youtube: DAtelier Interior
วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
จ้าง"ผู้รับเหมางาน ตกแต่งภายใน" ต้องรู้อะไรบ้าง?
ปกติแล้ว ถ้าคุณจ้าง"นักออกแบบตกแต่งภายใน" ทำงานออกแบบให้ เขาก็มีหน้าที่ต้องคอยตรวจเช็คความถูกต้องของงานให้แทนท่านอยู่แล้วนะครับ ดังนั้น ในกรณีที่คุณจ้าง "ผู้รับเหมางานตกแต่ง" เป็นผู้ออกแบบและรับเหมาให้ หรือ ชี้สั่งเอาตามแบบรูปภาพที่คุณอยากได้ แล้วให้ผู้รับเหมาใช้ความสามารถมโนตามที่คุณอยากได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น อาจจะมีคำถามว่า...ต้องรู้อะไรบ้าง? ในการตรวจสอบงานของผู้รับเหมา หรือก่อนที่จะว่าจ้างกัน
ข้อแรก.รายละเอียดในการเสนอราคางาน ควรที่จะมีการแจกแจงรายละเอียดของงานในแต่ละรายการ เช่นประเภทงาน ปริมาณงาน ไม่ควรเหมารวมไปซะทุกรายการ(Lumpsum) ลองกลับไปอ่านบทความเก่าที่นี่นะครับ http://designatelierinterior.blogspot.com/2015/02/boq-bill-of-quantity.html
ข้อที่สอง.สัญญาว่าจ้าง ถ้าเป็นไปได้ ก็ควรที่จะมีนะครับ แม้ว่าบางทีจะไม่คุ้มที่จะนำไปเป็นคดีความกันในภายหลังก็ตาม และควรจะมีระบุเวลาเสร็จสิ้นส่งมอบงาน ข้อปรับการผิดนัดส่งมอบงาน (แต่ตรงจุดนี้ การร่างสัญญา ก็ไม่ควรเอาเปรียบกันและกันนะครับ) ทุกครั้งที่มีการแก้ไขงาน หรือมีผลกระทบกับการทำงาน ทั้งสองฝ่ายควรทำ"บันทึกช่วยจำ" ให้รับทราบว่ามีผลกระทบกับเวลาการทำงานกี่มากน้อยก็ว่ากันไปครับ และงวดการชำระเงินควรจะระบุลงไปว่า ในแต่ละงวด จะต้องชำระเท่าใดในปริมาณงานอะไรบ้าง แค่ไหน (ตรงนี้ บางครั้งรายการทำงานจริงอาจจะไม่แป๊ะๆ อาจมีการเหลื่อมประเภทงานกัน ท่านต้องยึดหยุ่นกันบ้างตามควรนะครับ) และการเข้าทำงานในคอนโด หรือบางหมู่บ้าน มักจะต้องมีค่าประกันกับทางนิติบุคคลคอนโด หรือหมู่บ้าน ตรงนี้ใครรับผิดชอบ ตกลงกันให้ดีครับ
ข้อที่สาม.สัญญาว่าจ้าง ควรที่จะระบุสเป๊คของวัสดุอุปกรณ์มาตรฐานเอาไว้ว่า ใช้ของยี่ห้ออะไร เช่นอุปกรณ์ฟิตติ้งทั้งหลาย วัสดุอุปกรณ์อะไรที่ รวม หรือไม่รวมในราคา แบบมือจับเฟอร์นิเจอร์ท่านควรเห็นแบบก่อนที่จะติดตั้ง เพราะมีหลายราคามาก ตั้งแต่หลักสิบ จนถึงหลักพันต่อชิ้น และเลือกแบบผิดนี่ งานจบไม่สวยเลยครับ (รายละเอียด ให้กลับไปอ่านหน้านี้ครับ http://designatelierinterior.blogspot.com/2015/01/blog-post.html )
ข้อที่สี่.การเข้าทำงานในพื้นที่ของช่าง ข้อนี้ตกม้าตายกันมาเยอะแล้วครับ ทำไมนะเหรอครับ? บ้านหรือคอนโดที่เราซื้อมาใหม่ มักจะมีพื้นไม้หรือกระเบื้อง หรือหิน และผนัง ทาสีบ้าง ติดWall Paper บ้างอย่างสวยงาม อีกทั้งห้องน้ำสุขภัณฑ์ราคาถูกบ้างแพงบ้าง เมื่อมีการทำงานช่างในพิ้นที่ใด แล้วไม่มีการป้องกันพื้นที่ให้ดี ความเสียหายมักจะตามมาครับ การทะเลาะเบาะแว้งจึงเกิดขึ้น!!! ทีนี้เข้าใจรึยังครับ พลาสติก กระดาษลูกฟูก ไม้อัด สามสิ่งนี้จึงถูกนำมาใช้ปกป้องพื้นที่ครับ แต่ปกติแล้ว หากไม่ค่อยตรวจสอบ ทำงานไปเรื่อยๆ การปกป้องก็จะเริ่มหละหลวมครับ (ถ้าช่างรับงานราคาท่านถูกมากกกก ข้อนี้อาจมีบ่ายเบี่ยงเกี่ยงงอน หรือทำแบบผักชีโรยหน้าครับ ขอเตือน) และก่อนที่จะเริ่มงานควรที่จะมีการนัดกันตรวจมอบพิ้นที่กัน ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานให้เห็นกันไปเลยครับ ตรงไหนมีตำหนิมีปัญหา รับทราบกันไว้ทั้งสองฝ่าย (ไม่ควรละเลยทั้งท่านเจ้าของบ้าน และท่านผู้รับเหมางานนะครับ)
ข้อที่ห้า.การตรวจสอบงานระหว่างช่างเข้ามาทำงาน ท่านควรเห็นตั้งแต่โครงไม้ที่ใช้ขึ้นโครงตู้นะครับ ทาน้ำยากันปลวกหรือไม่ เกรดของไม้โครงเป็นไปตามที่ระบุไว้หรือไม่ ช่างเข้ามาทำงานกี่คน สัดส่วนเหมาะสมกับปริมาณงาน และเวลาที่รับจ้างหรือไม่
ข้อที่หก.ขั้นตอนการทำสีเฟอร์นิเจอร์ ตรงนี้เป็นเรื่องยากเพราะต้องรู้ขั้นตอน แต่อย่างน้อยท่านต้องดูและพิจารณาว่า การทำสีเรียบเนียน ลูบแล้วสากมือมากน้อย เรียบเนียนแค่ไหน รับกันได้ที่จุดไหน
ข้อสุดท้าย.การตรวจรับมอบงาน เช็คดูการเปิดปิดของอุปกรณ์ต่างๆ ลื่น สะดุดหรือไม่ งานสีเรียบลื่นถูกใจหรือไม่ มีตำหนิรอยถลอกตรงไหน หน้าบาน หลังบาน บนล่าง ใต้ตู้หลังตู้ ขอบชั้นไม้ โดยรอบ จุดซ่อนเร้นต่างๆ ที่มักจะละเลยไม่ทราบกัน และการส่งมอบพื้นที่ทำงาน มีอะไรเสียหายหรือไม่ ฝ้าเพดาน ผนัง พื้น ประตู หน้าต่าง ห้องน้ำ ท่องไว้ครับ ต้องตรวจสอบ
จบแล้วครับ ที่จริงมีรายละเอียดเยอะกว่านี้นะครับ เอาแค่นี้พอให้ปวดหัวกันเล่นละกันครับ
วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558
Idea Wine Gallery Shop (ออกแบบตกแต่งร้านไวน์) แบบเก๋ๆ
ผมมีงานออกแบบร้านขายไวน์แบบแกลลอรี่เล็กๆ ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของร้านอาหารและเครื่องดื่มย่านเกษตร-นวมินทร์ พอดีทางร้านเขามีพื้นที่ว่างเหลืออยู่หนึ่งห้อง ผมเลยได้โอกาสรับหน้าที่ออกแบบงานนี้ครับ ตามมาดูกันเลยครับ
สภาพเดิมๆ ด้านประตูทางเข้าหน้าร้าน
เริ่มจากพื้นที่เดิมแบบโล่งๆ มุมมองจากในร้านไปหน้าร้าน และมองจากหน้าร้านไปยังในร้าน
ผังแบบแปลนการจัดวาง(ขึ้นงานด้วยโปรแกรมSketchupครับ) ด้านซ้ายมือคือทางเข้าครับ
มองจากหน้าร้านเข้าไปด้านในร้าน แนวทางการออกแบบ ผมวางให้เป็นเหมือน ไวน์เซลล่าร์ ในห้องใต้ดินเก็บไวน์ คือเน้นวัสดุที่เป็นอิฐ หินธรรมชาติ กับงานไม้ และเนื่องจากเพดานเดิมมีพื้นที่ค่อนข้างสูงอยู่มาก ผมเลยออกแบบให้เป็นเพดานโค้ง ซ่อนไฟหลืบด้านข้าง
มุมนี้ซูมเข้าไปดูกันชัดๆ กับชั้นวางขวดไวน์ มีที่วางตู้แช่ไวน์แบบรักษาความเย็น
มุมด้านขวามือ ที่ของเดิมเป็นช่องหน้าต่างกระจกกับเฟรมอลูมิเนียมที่ดูแข็งๆ ผมเลยกรุทำแผงผนังเพิ่มขึ้นมาอีกชั้น แล้วใส่หินเคนไซเข้าไป ประดับไฟกิ่งติดผนังเพิ่มมิติแสงไฟลงไป ส่วนพื้นก็ปูทับด้วยกระเบื้องยางลายไม้ เท่านี้ก็ดูดีมีสกุลแล้วครับ
แถมท้ายด้วยงานปรับรีโนเวท สเตจเวทีของร้านเดียวกันนี้ให้เลือกสองแบบ เน้นประหยัดงบครับ ง่ายๆแต่พอได้ใจภาพบนผ่านโปรแกรมเรนเดอร์แสงเงาแล้ว ภาพล่างSketchup เพรียวๆครับ
ภาพนี้สภาพของเวทีเดิมที่จะปรับเปลี่ยน
จบแล้วครับ เอาไว้โอกาสหน้าจะเอาผลงานตกแต่งภายในแบบอื่นๆมาลงให้ชมกันครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
Idea ตกแต่งห้องพักสไตล์รีสอร์ท แบบอบอุ่น เก๋ๆ
ผมมีโอกาสได้ไปออกแบบงานตกแต่งภายใน ให้กับเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดใกล้ๆ กทม.เมื่อซักสองปีก่อน โจทย์ข้อหนึ่งมีอยู่ว่า "พื้นที่ตกแต่งขอให้ใช้กระเบื้องเยอะๆหน่อย เนื่องจากกลัวความชื้น มีไม้ได้บ้างในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ Built-In ถ้าจำเป็น" ส่วนโจทย์อีกข้อคือ ท่านเจ้าของไปเหมาเอาเตียงไม้เนื้อแข็งราคาย่อมเยาว์ มาเป็นจำนวนมาก ขอให้นำไปใช้ด้วย(ข้อนี้ขอร้องแกมบังคับ) หลังจากผ่านเวลาจบงานไปแล้วพอควร ผมเห็นสมควรจะเอามาเผยแพร่เป็นไอเดียที่อาจจะตรงใจใครบ้าง ดีกว่าเก็บไว้ให้เสียของ ถึงมันจะไม่บูด ไม่เน่า แต่ก็น่าจะเกิดประโยชน์กับมหาชนทั้งหลาย เชิญชมได้เลยครับ
แบบแปลน ห้องแบบเตียงคู่ขนาดใหญ่สองเตียง
ผนังที่หัวเตียง และปลายเตียง มีแนวเสาห้องผ่ากลางอยู่ ผมเลยออกแบบให้กรุผนังบังแนวเสา ด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติ สลับสีอ่อน เข้ม เพื่อให้สีเข้มเข้ากับสีเฟอร์นิเจอร์ลอย ที่มีอยู่
โต๊ะ และตู้วางทีวี ออกแบบให้ไปกันได้กับแบบเตียง ออกแนวเรียบๆเพื่อไม่ให้งานดูคันทรี่ จนเกินงาม
มุมมองจากทางเข้าหน้าห้อง ด้านในสุดจะเป็นทางออกไประเบียงนั่งเล่น โต๊ะหัวเตียงออกแบบให้ใหม่ แนวคันทรี่อ่อนๆ
มุมนั่งเล่นริมหน้าต่าง ก่อปูนด้านล่างโปร่งๆเพื่อไม่ให้สะสมความชื้น วางเบาะรองนั่ง ชิลล์กันไปกับวิวน้ำตก
เปิดประตูทางเข้าห้องมา ด้านขวาเป็นตู้เสื้อผ้าที่มีแต่หน้าบานยึดโครงกับผนังปูน เพื่อลดความชื้น และลดราคาครับ..ฮา ส่วนขวามือเป็นอ่างล้างหน้าหน้าห้องน้ำ
ทั้งหมดนี้ ใช้โปรแกรม Sketchup ขึ้นแบบเพรียวๆ ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวช่วยก็สวยได้ครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior
วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558
My Idea " ไอเดีย ต่อเติมโรงรถ เป็นห้องสันทนาการกันครับ"
เมื่อผมได้รับโจทย์จากเจ้าของบ้านครอบครัวดนตรี ที่เป็นลูกค้าเก่าหลังหนึ่งที่เคย ออกแบบ ตกแต่งภายใน ไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า "อยากปรับเปลี่ยนโรงรถเป็นพื้นที่สันทนาการ เล่นดนตรีกันภายในครอบครัว โดยไม่ต้องการให้มีเสียงดังไปรบกวนเพื่อนบ้านครับ" ผมเห็นว่าน่าสนใจดีนะครับที่จะนำมาลงเป็นไอเดีย ให้คนรักบ้านทั้งหลายใช้เป็นแนวทางการต่อเติม ตกแต่งภายในกันครับ
ภาพข้างบนนี้เป็นแบบนำเสนอเจ้าของบ้านนะครับ ตัวบ้านเป็นทาวน์โฮม สองห้องติดต่อกัน มีที่จอดรถได้ทั้งสองห้อง ซึ่งจะถูกกั้นเป็นห้องเพิ่มมาหนึ่งห้องนะครับ
ภาพงานตกแต่งภายใน มุมด้านขวาที่เห็นจะเป็นส่วนที่ต่อเนื่องมาจากตัวบ้านเดิม ที่เป็นห้องรับแขก ขวามือสุดมีตู้รองเท้าเดิมอยู่ ผมไม่รื้อทิ้ง แต่ปรับใส่ตู้เพิ่มเติมเข้าไปและเปลี่ยนทำสีซะใหม่ ส่วนเพดานโครงสร้างเดิมบังคับความสูงไว้อยู่ เลยเจาะทำเป็นหลุมเล็กๆ แนวโมเดิร์นกันไป
สภาพโรงรถเดิมครับก่อนปรับเปลี่ยนพื้นที่
หลังคาเดิมเป็นแผ่นโพลี่คาร์บอเน็ตใส ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนเป็นหลังคาเมทัลชีท กรุด้วยตัวกันความร้อนและกันเสียงอีกที
ของเดิมจะมีประตูทางเข้าบ้านได้ทั้งสองฝั่ง พร้อมด้วยตู้รองเท้าขนาบอยู่ข้างประตู
เริ่มงานโครงสร้างครับ เพื่อความมั่นคงแข็งแรง ต้องลงเสาเข็มหกเหลี่ยมรับแนวผนังที่จะก่อด้านติดถนนก่อน
แนวผนังหลังจากลงเข็มเสร็จแล้ว มุมด้านซ้ายมือต้องเว้นหลบแนวท่อพักน้ำ ผมเลยเอาไว้เป็นที่ติดคอยล์ร้อนแอร์ หลบไว้มุมนี้พอดี
เริ่มงานก่อผนัง ผูกเหล็ก เทปรับพื้น
รื้อหลังคาเดิมออก ก่อผนังสองชั้น ใส่แผ่นฉนวนกันเสียงและกันความร้อน
หลังก่อผนังสองชั้นแล้วเสร็จ ปูหลังคาเมทัลชีทแล้ว
ภายนอกเริ่มเห็นเป็นห้องแล้ว เหลือใส่กระจกสองชั้นแบบมีฉนวนกันเสียงด้วยก๊าสเฉื่อย
ภายในหลังกรุฝ้า ฉาบปูน เห็นเป็นรูปร่างงานใกล้เสร็จแล้ว
ภาพงานภายในหลังเสร็จแล้ว มีปรับเปลี่ยนจากแบบเดิมบ้างเล็กน้อย
ภาพภายนอกหลังเสร็จแล้ว
ก็พอเป็นไอเดียสำหรับคนที่อยากต่อเติมพื้นที่จอดรถ เป็นห้องใช้งานกันนะครับ พอดีบ้านหลังนี้มีพื้นที่พอให้สามารถจอดรถหน้าบ้านได้ โดยไม่รบกวนเพื่อนบ้านครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
"มาเปลี่ยนโฉมร้านอาหารเก่า ด้วยไอเดียประหยัดงบกันครับ"
ส่วนสภาพร้านเดิม เป็นตึกแถวเก่าๆหน่อย อยู่ย่านถนนเจริญนคร เดิมทีเป็นร้านขายติ่มซัมครับ มาดูสภภาพเดิมกัน
สีชมพูหวานแหววดีจริงๆเลยครับ เพดานเป็นโครงพื้นไม้ของชั้นบน ทาสีขาว น่าจะคงไว้ได้ แต่พื้นและผนังที่กรุกระเบื้องไว้สภาพไม่น่าเอาไว้แล้วครับ
มุมนี้มองย้อนออกไปหน้าร้าน จะเห็นชุดอลูมิเนียมประตู สภาพเก่าไม่หน้าใช้งานแลดูเป็นสำนักงานมากกว่าร้านอาหาร เห็นทีต้องเปลี่ยนครับ
มาเริ่มงานออกแบบกันเลยครับ Concept ที่วางไว้แต่แรกอย่างที่บอกครับ ง่ายๆและประหยัด ไม่เน้นหรู เอาแค่ดูสะอาดสวยงามน่านั่ง ภาพจึงออกมาเป็นแบบนี้ครับ
เปลี่ยนแผงด้านหน้ายกเซ็ทเลยครับ ตั้งแต่พื้น ผนัง ประตู เพดาน กั้นแผงไม้เทียมสีขาว บังร้านข้างๆซักนิด เน้นด้านหน้าร้านด้วยซุ้มกรอบลายไม้
เลือกกระเบื้องปูพื้น และผนังใหม่ ทาสีผนังแบบสีสกิมโค๊ด ตัดขอบเสาและคานด้วยสีน้ำตาลเข้ม ส่วนเพดานคงของเก่าไว้แต่ทาสีใหม่ ห้อยด้วยไฟโชว์หลอด LED สายไฟสีดำโชว์ความง่ายๆนิดนึง
จัดไปกับมุมเคาน์เตอร์แคชเชียร์และกาแฟสดใต้บันได ด้านหลังเป็นโซนห้องน้ำ และครัว เหนือตี่จู้เป็นแผงระแนงไม้ไผ่ลำเล็ก
มุมนี้มองจากหลังเคาน์เตอร์ไปหน้าร้านครับ ทีนี้มาดูหน้างานซักรูปกัน
ปูกระเบื้องพื้นกับผนังแล้วครับ และรื้องานอลูมิเนียมประตูทางเข้า หน้าหลังเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น ผลงานที่เสร็จแล้วมายลโฉมกันครับ
มีข้อสะดุดนิดนึงที่ตัวโคมดาวน์ไลท์สีดำที่เห็น มันใหญ่กว่าที่ต้องเป็น ส่วนงานป้าย และกราฟฟิกมีเปลี่ยนแปลงจากภาพ Perspective ไปบ้าง แต่ก็OKครับ
มุมเล็กๆหน้าร้าน ไว้ถ่ายรูปโซเชี่ยลกัน ประดับด้วยกล้วยไม้ให้เข้ากับชื่อร้าน Orchid
ภายในร้าน ยังไม่ได้แขวนรูปภาพครับ เพราะรีบเปิดร้านก่อน หาไม่ทันครับ ส่วนโคมไฟมีการอัพเกรดขึ้นมานิดนึง เพื่อความเหมาะสม โทนสีโดยรวมเข้มกว่าที่ตั้งใจให้เป็นเกินไปนิดนึง แต่ก็ยังอยู่ในThemeที่ต้องการครับ
มาดูมุมมองจากด้านหลังกันครับ
โดยรวมน่าจะลงงบไปประมาณ 4-5แสนครับ เพราะรื้องานไฟและแก้ไขระบบน้ำ ห้องน้ำ และครัวด้านหลังไปด้วย ใครสนใจตามไปชิมกันได้ที่ร้าน Orchid อยู่ใกล้ๆปากซอยเจริญนคร 17 ได้ครับ
*Update ล่าสุด ผมแก้ไขรายละเอียดในการนำเสนอเป็น VDO Clipe บน Youtube มาให้ดูกันครับ แบบจะดูสวยขึ้นกว่าเดิม อยากให้เข้าไปดูกันครับ อย่าลืม ชอบกด Like ใช่ก็ Subscribe กันหน่อยครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior
วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558
"ผู้รับเหมาตกแต่งภายใน" คัดเลือก อย่างไรดี?
มีคำถามจากท่าน เจ้าของบ้าน เจ้าของงาน ที่ผมออกแบบตกแต่งภายในให้แทบทุกงาน ถามว่า "จะพิจารณาคัดเลือก ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน อย่างไร ในกรณีที่ไม่คุ้นเคยใช้งานกันมาก่อน" ...เอ่อคำถามนี้ผมเชื่อว่าโดนใจหลายๆท่าน คงต้องหูผึ่ง เอียงหูมาฟังกันบ้างละครับ งั้นมาดูกันครับ
ปกติแล้วถ้าท่านเจ้าของบ้าน ว่าจ้าง"นักออกแบบตกแต่งภายใน"ให้ทำงานให้แล้ว กระบวนการคัดเลือก"ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน" จะต้องผ่านขั้นตอนการรับแบบตกแต่งภายใน และมีเอกสารประกอบการคิดราคางานให้ใช้ลงรายการเสนอราคาที่เรียกว่า "B.O.Q หรือรายการปริมาณงาน(Bill Of Quantity)" (ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ตามลิ้งค์นี้ครับhttp://designatelierinterior.blogspot.com/2015/02/boq-bill-of-quantity.html)หลังจากที่ผู้รับเหมา(ปกติควรมี3-4เจ้า และไม่ควรมากไปกว่านี้นะครับ)ส่งราคางานกลับมาให้ ซึ่งต้องอยู่บนพื้นฐานเอกสารเดียวกันที่ให้ไปนะครับ กระบวนการพิจารณาคัดเลือกก็จะเริ่มที่ตรงนี้ ซึ่งหลักการนี้ท่านเจ้าของบ้านที่ไม่ได้ว่าจ้าง"นักออกแบบตกแต่งภายใน" ก็สามารถนำไปใช้ได้นะครับ แม้ว่าจะไม่ได้เทียบเท่าการใช้นักออกแบบก็ตาม มาเริ่มกันทีละข้อครับ
1.ให้ดูจากความใส่ใจในการทำงานตั้งแต่เมื่อได้รับแบบเสนอราคาไปครับ ว่ามีFeedback อย่างไร ใส่ใจสอบถาม หรือมีประเด็นสอบถามเพิ่มเติมมามากแค่ไหน (ข้อนี้ส่วนใหญ่ "นักออกแบบตกแต่งภายใน" จะทราบครับ แต่ถ้าแบบงานไม่ยุ่งยากซับซ้อนมาก ก็อาจจะไม่มี Feedback กลับมาครับ) บางงานก็ควรมาดูสถานที่จริงที่จะต้องทำงานครับ เพื่อประเมิณหน้างานว่ามีความยากง่าย และเผื่อมีอะไรตกหล่นจากแบบที่ต้องคิดราคางาน และความตรงต่อเวลาในเวลาที่นัดหมายให้ส่งราคางาน หากช้ามากไปกว่าที่นัดหมายมากนี่ ผมเพ่งโทษไว้อันดับแรกเลยครับ
2.ใบเสนอราคางานที่ส่งกลับมา มีความถูกต้องตามที่ให้ไปมากน้อยแค่ไหน อย่าไปหลงกับตัวเลขราคาที่ถูกแสนถูกใจท่านนะครับ เพราะมีหลายๆอย่างที่ยังต้องพิจารณาประกอบ (ข้อสังเกตุ ส่วนมากแล้วผู้รับเหมางานตกแต่งภายในที่ดี มักจะเสนอมาละเอียดกว่ารายการที่ให้ไปอีกครับ) นำรายการราคาทุกเจ้ามาเปรียบเทียบกันทุกๆรายการ ทีนี้ท่านจะเห็นความแตกต่าง ตกหล่น มาเพื่อตั้งคำถามกลับไปครับ
3.ปกติแล้วถ้ามีเจ้าไหนเสนอราคามาโดดจากเจ้าอื่น ไม่ว่าจะถูกกว่าหรือแพงกว่ามากๆ อย่าเพิ่งด่วนเลือกหรือตัดออกนะครับ แต่เป็นข้อสังเกตุว่า ให้พิจารณาให้มากๆว่าเพราะอะไร เช่นถ้าถูกมากๆ อาจมีการเสนอราคาตกหล่น หรือบิดเบือนทางเทคนิค หรือปริมาณจำนวนไม่ถูกต้อง กลับกันเจ้าที่แพงมากไปก็เช่นกันครับ อาจคิดจำนวนผิดพลาดมากเกินไปได้ครับ
4.เมื่ิอได้ข้อสรุปเรื่องราคาแล้ว ตรงนี้สำคัญที่สุดคือ ท่านควรจะไปดูผลงานของทุกๆเจ้าที่เสนอราคางานมาว่า งานที่เขากำลังทำอยู่ที่อื่นผลงานเป็นอย่างไร และควรจะเป็นงานที่มีรูปแบบที่มีลักษณะ ประเภทงานที่เทียบเคียงกันได้นะครับ เช่นบ้านท่านเป็นแบบงานโมเดิร์นงานสีพ่น ท่านก็ควรจะเห็นงานแบบเดียวกัน ถ้าไม่มีจริงๆถึงพิจารณาเทียบเคียงไป และสิ่งที่ต้องไปดูคือ
-งานไม้ การแบ่งช่องไฟระยะห่างของบานแต่ละบานไม่ห่างจนหมดสวยมีความสม่ำเสมอสวยงาม การต่อไม้ชนไม้ มีรอยต่อที่ราบลื่นไม่สดุ้ง หลายเจ้าเสนอราคางานมาถูกมักสอบตกข้อนี้ครับ
-งานสีถ้าเป็นสีพ่นที่เสร็จแล้ว ลูบดูแล้วต้องเรียบเนียนไม่สากมือ มองดูไม่เห็นร่องรอยหลุมร่องของงานไม้แต่แต่นิดเดียว ถึงจะเรียกว่างานสีพ่นเต็มเสี้ยนไม้
-งานสีที่เป็นสีงานไม้โชว์ลายไม้ ลูบแล้วก็ต้องไม่สากมือมีความลื่นมือ เพียงแต่ว่ายังเห็นว่าเป็นไม้โชว์ลาย หากเป็นงานเท็คนิคที่ไม่ลงเต็มเสี้ยนไม้จึงจะเห็นว่ามีร่องเสี้ยนไม้ยุบลงไปในเสี้ยนเล็กน้อย
-หน้างาน มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากแค่ไหน การจัดวางกองวัสดุ เครื่องไม้เครื่องมือ ขณะทำงาน การปูวัสดุปกป้องพื้นที่ที่ทำงาน เช่นพื้นเดิม มีการปูไม้อัด หรือกระดาษลูกฟูกรองป้องกันไว้หรือไม่ มีการเอาวัสดุคลุมปกป้องอุปกรณ์สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำไว้ดีหรือไม่ ภาพเหล่านี้บอกได้ครับถึงเรื่องการบริหารจัดการหน่วยงาน
5.หากเป็นไปได้ท่านควรแอบสอบถามจากเจ้าของบ้านที่ไปดูหน้างาน ถึงความพึงพอใจที่มีต่อผู้รับเหมารายนั้นๆ รวมถึงความตรงต่อเวลาในสัญญาการทำงานที่ตกลงกันไว้แต่แรก
6.ถ้างานของท่านเป็นงานที่ใหญ่และมีปริมาณงานมากๆ ผมแนะนำให้ท่านไปสำรวจถึงที่ทำงาน โรงงาน ของผู้รับเหมางานด้วยยิ่งดีเลยครับ แต่ถ้างานท่านเล็กๆ ท่านอาจได้ผู้รับเหมาที่มีโรงงานแบบห้องแถวหรือเรือนสังกะสี อันนี้ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณานะครับ ใช่ว่าจะไม่ดี ที่ดีก็มีครับ
บทสรุปคือ หลักเกณฑ์เหล่านี้คงไม่ตายตัว100% แต่พอใช้เป็นเกณฑ์เลือกตัดสินใจได้ดีกว่าไม่มีหลักนะครับท่านเจ้าของบ้าน เจ้าของงานทั้งหลาย โชคดีครับ
วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558
ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน กับ เจ้าของบ้าน ข้อควรระวัง!!! Part 2/2
ต่อจากบทความที่แล้วกันนะครับ มาเริ่มกันที่ปัญหาคู่กรณีหลังกันเลยครับ
2.ปัญหาที่เกิดจาก เจ้าของบ้าน เจ้าของงาน
-เจ้าของบ้านปรับเปลี่ยน แก้ไขงานบ่อย...แน่นอนครับ ช่างย่อมไม่ค่อยชอบการแก้ไขงาน โดยเฉพาะงานที่ทำไปเยอะแล้ว เพราะบางครั้งงานช้ำ แก้แล้วเก็บงานไม่สวย อีกทั้งบ่อยครั้งที่แก้แล้วเรียกเก็บตังก็ไม่กล้า กลัวโดนหาว่าเคี่ยว ปัญหาการแก้ไขเปลี่ยนใจเปลี่ยนแบบนี่ โดยมากมักเกิดกับท่านเจ้าของบ้านที่ ดูแบบ อ่านแบบไม่ค่อยออก แม้จะเป็นแบบรูปภาพงาน 3 มิติ 3D Perspective ก็ตาม คือ เข้าใจต่อเมื่อเห็นงานจริง มีเยอะนะครับทำเล่นไป
-เจ้าของบ้าน ขาดความไว้วางใจ ไม่ค่อยมั่นใจตัวเอง หรือมั่นใจในตัวเองมากไป คิดว่าตัวเองรู้มากกว่า เลยพาลขาดความมั่นใจในช่าง และบ่อยครั้งที่ลามมาถึงผู้ออกแบบด้วย อาการนี้สังเกตุได้ว่า เจ้าของบ้านมักแสดงอาการออกมาในรูปแบบ ลังเล โลเล และถามกลับไปกลับมา ถามไปทั่วแม้คนนอกวง ผลเสียของการทำแบบนี้คือ ได้ข้อมูลมาเยอะเกิน จริงบ้าง มั่วบ้าง เพราะบ่อยครั้งที่คนตอบ ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือรู้ไม่จริง ส่งผลให้บางครั้งเกิดอาการจับผิดช่าง จนทำงานยาก เกิดประเด็นให้ได้ทะเลาะกันภายหลัง เรื่องมารยาท ความไว้วางใจในวิชาชีพนี่ ท่านเจ้าของบ้านทั้งหลาย ควรระมัดระวังไว้บ้างก็ดีนะครับ เพราะแม้แต่นักออกแบบเองก็โดนกันบ่อยๆ คือแนะนำอะไรไป มีการเอาไปสอบถามคนอื่น ครั้งหนึ่งที่ผมเคยไปหาซื้อของแต่งบ้านกับลูกค้าผู้มากจะกินท่านหนึ่งในต่างประเทศ ขณะที่อยู่ในร้านขายของสินค้าแบรนด์ดังของยุโรปร้านหนึ่ง ผมได้เลือกของให้ลูกค้าท่านนั้น ปรากฎว่า ด้วยความเคยชินในการบริโภคแบบไทยๆ ท่านได้หันไปถามผู้ขายสินค้าว่า "คุณเห็นว่าเป็นอย่างไร แบบนี้สวยเหมาะมั๊ย" เล่นเอาผู้ขายงง...? และชี้มือมาที่ผมพร้อมกับพูดว่า Your's Designer ส่วนท่านเจ้าของบ้านก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปชั่วขณะ เงิบกันไปครับ ประมาณว่า จ้างคนออกแบบมาทำไมไม่ถามหล่ะ...อืมมม..นั่นสินะครับ
-เจ้าของบ้านเข้าหน้างานบ่อยมากกกก...เข้าได้เกือบทุกวัน เคยเจอหรือปล่าวครับ สำหรับผม เจอออกบ่อยครับ เอ..แล้วเกี่ยวอะไรกันละครับ..? คือปกติของท่านเจ้าของบ้าน ก็มักอยากทราบความก้าวหน้าของงาน เห็นคุณภาพงาน ก็ย่อมต้องอยากเข้าไปดูไปเห็นเป็นธรรมดาน่ะครับ ซึ่งส่วนมากก็จะเข้าไปดูไม่แน่ไม่นอน ส่วนมากท่านเจ้าของบ้านมักจะมีภาระกิจทำให้เข้าไปดูงานได้ไม่บ่อยครับ แต่มีท่านเจ้าของบ้านบางท่าน สามารถครับ คือท่านอยู่ใกล้หน้างานมากกก ขนาดเข้าได้ทุกวัน ปัญหาคือ..? ยิ่งเข้าหน้างานได้บ่อยมากเท่าไหร่ ยิ่งเจอปัญหาความไม่ถูกใจ ถูกตา ถูกอารมณ์มากเท่านั้น เพราะผมบอกได้เลยว่า ช่างแรงงานในไทย แม้จะหลายสัญชาติก็ตาม มีพฤติกรรมในการทำงานที่ค่อนข้าง ขัดหูขัดตา เหล่าคนทำงานใช้หัวคิดทั้งหลาย ทำให้ขัดใจพาลทะเลาะอยู่เยอะครับ ประเด็นนี้คงต้องบอกว่า เลี่ยงได้เลี่ยงเถอะครับ ต้องทำใจอย่างเดียวครับถ้าไม่อยากเจอภาพบาดใจ บาดอารมณ์ (ดั่งละครน้ำเสียทั้งหลาย)
-เจ้าของบ้านเหนียวหนี้ จ่ายเงินล่าช้า ปัญหานี้ส่วนมากมักเกิดกับงาน ตกแต่งภายใน ที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ธุรกิจ ร้านค้า พาณิชย์ทั้งหลายครับ ถ้าเป็นงานบ้านพักอาศัย อาจจะน้อยกว่า แต่ใช่ว่าไม่มีนะครับ ซึ่งการจ่ายเงินล่าช้า ดึงเงิน มักจะพ่วงไปกับงานที่เร่งรีบ เวลาจำกัด ซึ่งกลายเป็นข้ออ้างให้เจ้าของงาน เจ้าของบ้านใช้เป็นจุดอ่อน ให้ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน เร่งรีบทำงานไปก่อน แล้วหาเหตุจ่ายล่าช้า ไปจนกระทั่งเบี้ยวไม่จ่ายก็มีบ่อยครับ ผู้รับเหมางานตกแต่งภายในจะกลัวกันมากกับเคสแบบนี้ครับ
เอาคร่าวๆสำหรับกรณีท่านเจ้าของบ้าน เจ้าของงาน ก็มีประมาณนี้ครับ มากกว่านี้เดี๋ยวท่านเจ้าของบ้าน พาลเหม็นขี้หน้า แล้วผมจะลำบากทำมาหากินครับ สวัสดี
2.ปัญหาที่เกิดจาก เจ้าของบ้าน เจ้าของงาน
-เจ้าของบ้านปรับเปลี่ยน แก้ไขงานบ่อย...แน่นอนครับ ช่างย่อมไม่ค่อยชอบการแก้ไขงาน โดยเฉพาะงานที่ทำไปเยอะแล้ว เพราะบางครั้งงานช้ำ แก้แล้วเก็บงานไม่สวย อีกทั้งบ่อยครั้งที่แก้แล้วเรียกเก็บตังก็ไม่กล้า กลัวโดนหาว่าเคี่ยว ปัญหาการแก้ไขเปลี่ยนใจเปลี่ยนแบบนี่ โดยมากมักเกิดกับท่านเจ้าของบ้านที่ ดูแบบ อ่านแบบไม่ค่อยออก แม้จะเป็นแบบรูปภาพงาน 3 มิติ 3D Perspective ก็ตาม คือ เข้าใจต่อเมื่อเห็นงานจริง มีเยอะนะครับทำเล่นไป
-เจ้าของบ้าน ขาดความไว้วางใจ ไม่ค่อยมั่นใจตัวเอง หรือมั่นใจในตัวเองมากไป คิดว่าตัวเองรู้มากกว่า เลยพาลขาดความมั่นใจในช่าง และบ่อยครั้งที่ลามมาถึงผู้ออกแบบด้วย อาการนี้สังเกตุได้ว่า เจ้าของบ้านมักแสดงอาการออกมาในรูปแบบ ลังเล โลเล และถามกลับไปกลับมา ถามไปทั่วแม้คนนอกวง ผลเสียของการทำแบบนี้คือ ได้ข้อมูลมาเยอะเกิน จริงบ้าง มั่วบ้าง เพราะบ่อยครั้งที่คนตอบ ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือรู้ไม่จริง ส่งผลให้บางครั้งเกิดอาการจับผิดช่าง จนทำงานยาก เกิดประเด็นให้ได้ทะเลาะกันภายหลัง เรื่องมารยาท ความไว้วางใจในวิชาชีพนี่ ท่านเจ้าของบ้านทั้งหลาย ควรระมัดระวังไว้บ้างก็ดีนะครับ เพราะแม้แต่นักออกแบบเองก็โดนกันบ่อยๆ คือแนะนำอะไรไป มีการเอาไปสอบถามคนอื่น ครั้งหนึ่งที่ผมเคยไปหาซื้อของแต่งบ้านกับลูกค้าผู้มากจะกินท่านหนึ่งในต่างประเทศ ขณะที่อยู่ในร้านขายของสินค้าแบรนด์ดังของยุโรปร้านหนึ่ง ผมได้เลือกของให้ลูกค้าท่านนั้น ปรากฎว่า ด้วยความเคยชินในการบริโภคแบบไทยๆ ท่านได้หันไปถามผู้ขายสินค้าว่า "คุณเห็นว่าเป็นอย่างไร แบบนี้สวยเหมาะมั๊ย" เล่นเอาผู้ขายงง...? และชี้มือมาที่ผมพร้อมกับพูดว่า Your's Designer ส่วนท่านเจ้าของบ้านก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปชั่วขณะ เงิบกันไปครับ ประมาณว่า จ้างคนออกแบบมาทำไมไม่ถามหล่ะ...อืมมม..นั่นสินะครับ
-เจ้าของบ้านเข้าหน้างานบ่อยมากกกก...เข้าได้เกือบทุกวัน เคยเจอหรือปล่าวครับ สำหรับผม เจอออกบ่อยครับ เอ..แล้วเกี่ยวอะไรกันละครับ..? คือปกติของท่านเจ้าของบ้าน ก็มักอยากทราบความก้าวหน้าของงาน เห็นคุณภาพงาน ก็ย่อมต้องอยากเข้าไปดูไปเห็นเป็นธรรมดาน่ะครับ ซึ่งส่วนมากก็จะเข้าไปดูไม่แน่ไม่นอน ส่วนมากท่านเจ้าของบ้านมักจะมีภาระกิจทำให้เข้าไปดูงานได้ไม่บ่อยครับ แต่มีท่านเจ้าของบ้านบางท่าน สามารถครับ คือท่านอยู่ใกล้หน้างานมากกก ขนาดเข้าได้ทุกวัน ปัญหาคือ..? ยิ่งเข้าหน้างานได้บ่อยมากเท่าไหร่ ยิ่งเจอปัญหาความไม่ถูกใจ ถูกตา ถูกอารมณ์มากเท่านั้น เพราะผมบอกได้เลยว่า ช่างแรงงานในไทย แม้จะหลายสัญชาติก็ตาม มีพฤติกรรมในการทำงานที่ค่อนข้าง ขัดหูขัดตา เหล่าคนทำงานใช้หัวคิดทั้งหลาย ทำให้ขัดใจพาลทะเลาะอยู่เยอะครับ ประเด็นนี้คงต้องบอกว่า เลี่ยงได้เลี่ยงเถอะครับ ต้องทำใจอย่างเดียวครับถ้าไม่อยากเจอภาพบาดใจ บาดอารมณ์ (ดั่งละครน้ำเสียทั้งหลาย)
-เจ้าของบ้านเหนียวหนี้ จ่ายเงินล่าช้า ปัญหานี้ส่วนมากมักเกิดกับงาน ตกแต่งภายใน ที่เกี่ยวข้องกับองค์กร ธุรกิจ ร้านค้า พาณิชย์ทั้งหลายครับ ถ้าเป็นงานบ้านพักอาศัย อาจจะน้อยกว่า แต่ใช่ว่าไม่มีนะครับ ซึ่งการจ่ายเงินล่าช้า ดึงเงิน มักจะพ่วงไปกับงานที่เร่งรีบ เวลาจำกัด ซึ่งกลายเป็นข้ออ้างให้เจ้าของงาน เจ้าของบ้านใช้เป็นจุดอ่อน ให้ผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน เร่งรีบทำงานไปก่อน แล้วหาเหตุจ่ายล่าช้า ไปจนกระทั่งเบี้ยวไม่จ่ายก็มีบ่อยครับ ผู้รับเหมางานตกแต่งภายในจะกลัวกันมากกับเคสแบบนี้ครับ
เอาคร่าวๆสำหรับกรณีท่านเจ้าของบ้าน เจ้าของงาน ก็มีประมาณนี้ครับ มากกว่านี้เดี๋ยวท่านเจ้าของบ้าน พาลเหม็นขี้หน้า แล้วผมจะลำบากทำมาหากินครับ สวัสดี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)