วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

"สัญญาว่าจ้างงานรับเหมาตกแต่งภายใน" ควรต้องระบุเงื่อนไขอะไรบ้าง?

                    
ตัวอย่างสัญญาว่าจ้าง

                     "สัญญาว่าจ้างงานรับเหมาตกแต่งภายใน" ควรต้องระบุเงื่อนไขอะไรบ้าง? มีหลายท่านถามมาว่า กำลังจะว่าจ้างช่าง หรือว่าผู้รับเหมางานตกแต่งภายใน(อันนี้ไม่เกี่ยวกับการว่าจ้าง งานออกแบบนะครับ) ควรจะต้องทำสัญญาเซ็นต์ผูกมัดอะไรกันก่อนดีไหม และควรต้องระบุเงื่อนไขอะไรลงไปบ้าง? วานผู้เขียนบอกหน่อยเถิด
                   ก้อเลยต้องตอบจากประสพการณ์ที่ผ่านมานะครับ ตรงนี้ถ้าบังเอิญมีน้องๆ ลูกๆ เด็กๆ ที่กำลังเรียนมาทางด้านงานออกแบบ ต้องบอกไว้เผื่อทราบกันก่อนนะครับว่า ไม่มีในหลักสูตรการสอนในมหาวิทยาลัยนะครับ เรื่องการเขียน การร่างสัญญา การว่าจ้างงานออกแบบ หรือว่างานจ้างรับเหมานะจ๊ะ แต่ว่าสมัยนี้ของแบบนี้สามารถหาอ่านเอาจากอากู๋ได้ไม่ยากครับ แต่....สัญญาโดยทั่วไปส่วนมากก็จะระบุโดยหลักๆพื้นฐานที่คล้ายๆกัน ก็เลยอยากจะเอามาขยายเพิ่มเติมในส่วนที่ควรต้องมี ต้องระบุเพิ่มไว้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างครับ (ขอข้ามส่วนที่เป็นพื้นฐานทั่วไปของสัญญานะครับ ไปหาอ่านกันเอาเอง)
                   เรื่องที่ 1. การแบ่งเก็บเงินงวดค่าจ้าง
                   ปกติทางผู้รับเหมาเขาจะต้องแบ่งซอยมาเป็นงวดๆ มากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณงานและปริมาณเงินนะครับ โดยตรงนี้ต้องดูให้สอดคล้องกับระยะเวลาในการทำงานด้วยนะครับ  เคยเจอบางงานเล่นเบิกเงินทุกสามวันสี่วัน(อ้างว่างานเร่งมาก ซึ่งก็ใช่แต่ มากไปมั๊ยอ่ะ)
                   และปัญหาที่เจ้าของงานผู้ว่าจ้างถามมาบ่อยที่สุดคือ....ผู้รับเหมาเบิกงวดแรกเป็นมัดจำมาถึง 30% ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย สมควรให้มั๊ย?
ตรงนี้ต้องบอกว่า ให้ได้ครับถ้าคิดว่าเป็นผู้รับเหมาที่เราพอเชื่อถือได้ว่าไม่หนี ไม่เชิด เพราะผู้รับเหมาหลายๆราย มักจะอาศัยเงินตรงนี้เป็นเงินลงทุน แต่ถ้าเป็นผู้รับเหมาที่เราไม่เคยรู้จัก และยิ่งรับงานราคาถูกมากๆ ให้ระวังให้มากๆนะครับ ถ้าจะจ่ายมัดจำ อาจจะต้องมีเงื่อนไขแนบว่า เมื่อผู้รับจ้างนำเอาวัสดุที่ต้องใช้ทำงานมาลงไว้ที่ไซต์งานเป็นบางส่วนแล้วตามความเหมาะสม
                   ต่อมาคือ การแบ่งเก็บเงินงวดงานแต่ละงวด ต้องระบุปริมาณงานในแต่ละงวดให้ชัดเจนว่า เมื่อผู้รับจ้าง ทำงานไปถึงขั้นตอนไหน ถึงจะเบิกเงินได้ (มีบ้าง บ่อยครั้งที่แผนงานที่ทำไปไม่ตรงเป๊ะ อาจจะต้องยอมให้ถัวๆกันไปงานโน้นมาโปะงานนี้ อันนี้ต้องยืดหยุ่นบ้างครับ)
                  เรื่องที่ 2. การระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงาน
                  ตรงนี้ระวังให้มากนะครับ กรณีที่มีการทำแบบงานออกแบบไว้ ให้เอาแบบมาแนบเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาด้วย และในแบบต้องระบุให้ชัดเจนว่าใช้วัสดุอุปกรณ์อะไร เช่นโครงไม้ อุปกรณ์รางเลื่อน บานพับ มือจับเฟอร์นิเจอร์ ยี่ห้ออะไร บลาๆๆ ตรงนี้ลองไปหาอ่านในบทความเก่าๆดู  https://designatelierinterior.blogspot.com/2015/01/blog-post.html แต่ถ้าว่าจ้างโดยไม่มีการทำแบบงานออกแบบก็ให้ระบุลงไปในสัญญาเลยครับ ว่าใช้วัสดุอุปกรณ์อะไร ยี่ห้อไหน เพราะราคามันแตกต่างกันมากครับ
                  เรื่องที่ 3. การระบุระยะเวลาในการทำงานให้แล้วเสร๊จ
                  ต้องกำหนดให้ชัดเจนนะครับว่า งานตามแบบที่ตกลงเอาไว้จะใช้เวลาทำงานแล้วเสร็จภายในระยะเวลากี่วัน ระบุเป็นวันที่ เดือน ปี ให้ชัดเจน และในกรณีที่มีการแก้ไข หรือการตัดสินใจล่าช้าที่ไม่ได้เป็นความผิดของผู้รับเหมา ต้องทำเอกสารแจ้งเป็นรายลักษณ์อักษรต่อผู้ว่าจ้างหรือผู้ออกแบบให้เป็นที่ยินยอมทุกฝ่ายรับทราบว่าจะต้องขยายระยะเวลาเพิ่มหรือไม่ครับ
                  เรื่องที่ 4. ข้อกำหนดการปรับเงินอันเกิดมาจากงานล่าช้าไม่ทันตามกำหนด
                  ตรงนี้ระบุให้ชัดเจนว่า ปรับเป็นเงินจำนวนวันละเท่าไหร่ ซึ่งโดยมากจำนวนเงินต้องตามที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับนะครับ ไม่มาก ไม่น้อย ดูเอาว่าเท่าไหร่ที่ครอบคลุมความเสียหาย ผู้เขียนไม่ขอออกความเห็นครับ
                  เรื่องที่ 5. การรับประกันงาน
                  หลังจากผู้รับเหมาส่งมอบงานให้ผู้ว่าจ้างแล้ว ต้องระบุให้ชัดเจนครับว่า รับประกันผลงานเป็นเวลาเท่าไหร่ โดยมากที่เจอก็ 1-2 ปี และบางครั้งการประกันนี้ก็มีการผูกยึดโยงกับเงินงวดสุดท้ายครับ กี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่าไปคตามแต่จะตกลงกันครับ
                  หลักๆที่เป็นประเด็นข้อพิพาทกันภายหลัง ก็จะมี 5 เรื่องนี้เหล่ะครับ อ้อเพิ่มเติมหน่อยคือ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทรับจ้างตรวจรับมอบงานแทนเจ้าของบ้าน ซึ่งถ้าท่านเจ้าของบ้านจะใช้งาน ผมแนะนำว่าท่านควรจะต้องแจ้งผู้รับเหมางานไว้แต่เนิ่นๆตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญางาน หรือระบุลงไปในสัญญางานด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องมาถกเถียงกันภายหลัง
ฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วยนะครับ ตามด้านล่างนี้เลยครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2563

ค่าออกแบบตกแต่งภายใน "จ่าย หรือ ไม่จ่าย" เมื่อสมองของนักออกแบบ ถูกเอาเปรียบ

                 
                     Interior design Fee หรือค่าธรรมเนียมการออกแบบตกแต่งภายใน หรือเรียกให้ตรงๆก็คือ ค่าสมองของนักออกแบบนั่นเหล่ะครับ
                   วันนี้อยากเอาเรื่องนี้มาเล่าคุยให้ฟังเพราะ ล่าสุดคือไปเจอกระทู้ใน Facebook นักออกแบบตกแต่งภายใน บ่นกันตรึมว่า "ลูกค้าไม่ยอมจ่ายค่าแบบ" "ลูกค้าโกงค่าแบบ" "ลูกค้าบอกให้ออกแบบมาให้ดูก่อน สุดท้ายเอาแบบไปใช้โดยไม่ยอมจ่ายค่าแบบ" บลาๆๆ
                   จริงๆแล้ว ปัญหานี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นนะครับ แต่มีมานานแล้วตั้งแต่เริ่มมีอาชีพนี้ในประเทศสารขันธ์แห่งนี้ และมีมาเรื่อยๆ ตลอดๆ จนผมอยากจะบอกว่า นี่เป็นสันดานเอาเปรียบของคนหลายๆคนในประเทศสารขันธ์แห่งนี้ และไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับอาชีพนี้นะครับ แต่เกิดกับทุกอาชีพที่เปิดช่องให้เอาเปรียบได้ คือ บางอาชีพไม่มีช่องให้เอาเปรียบได้ก็โชคดีไป เช่น แพทย์ หมอ คือยังไงก็ต้องจ่าย และยอมจ่ายครับ
                   แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ ผมไปเจอลูกค้าทำบ้านหรูท่านหนึ่ง เป็นหมอหนุ่ม อายุน่าจะไม่เกิน 35 ปี ท่านบอกเลยครับว่า ผมไม่จ่ายค่าออกแบบ ถ้าคุณอยากได้งานก็ออกแบบมาก่อนแล้วถ้าผมพอใจ ก็ค่อยไปทำราคางานรับเหมามา ประมาณว่าคุณไปบวกค่าออกแบบมาในนั้นก็แล้วกัน?
                   หลายท่านไม่ทราบ ก็คงคิดว่าเออ ก็ดี ชัดเจนดีแล้วนี่ คือคิดแบบเข้าข้างคนเอาเปรียบไงครับ แต่ผมจะบอกว่า จากประสบการณ์ เคสแบบนี้คือ แปลว่า ถ้าผมอ้างว่าไม่พอใจ ไม่ถูกใจ หรือเสนอราคางานมาแล้วไม่ตรงใจท่าน ทุกอย่างคือจบ ทำงานฟรีครับ โดนกันมาเยอะแล้ว
                  หรือแม้กระทั่งหลายครั้งที่ผมเจอคือ ลูกค้าที่เป็นเคสงานออกแบบที่เป็นงานธุรกิจ งาน Commercial ทั้งหลายนี่เหล่ะครับ ลูกค้าจะบอกเลยว่า เป็นงาน Bidding งานออกแบบ ไปทำเสนอไอเดีย พร้อมราคามาแข่งกัน ซึ่งจะมีทั้งแข่งไอเดีย บวกราคาค่าออกแบบ และ แข่งไอเดีย บวกราคาค่างานรับเหมาไปด้วย ซึ่งประเด็นปัญหาคือ มันมักจะไม่มีมาตรฐานควบคุมว่า จะเอาอะไรมาเป็นตัวชี้วัดเทียบกันแต่ละเจ้า บางคนออกแบบให้อยู่ในงบประมาณที่ถูกจำกัด แบบอาจจะออกมาไม่หรูหราเว่อร์วังอลังการ แต่ไปเจอคู่แข่งออกแบบมาหรูหรา แต่ควบคุมงบประมาณไม่ได้ ทำจริงเกินงบ กว่าเจ้าของงานจะรู้ ก็ถอยไม่ได้แล้ว ทะเลาะกันภายหลัง มีบ่อยครับ
                  ประเด็นปัญหาเหล่านี้คือ เหล่านักออกแบบจะแก้ไข หรือต้องปรับตัวกันยังไง ผมยืนยันได้เลยครับ ทุกวันนี้ก็ปรับตัวกันมาเรื่อยๆครับ คือ เอาเปรียบมา ถ้าฉันไม่มีทางเลือก ฉันก็ต้องทำงานแบบซุกๆซ่อนๆค่าออกแบบ ไม่โชว?ให้เห็น ยอมให้เอาเปรียบด้วยความชอกช้ำระทมขมขื่น เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ และจะเกิดขึ้นในประเทศที่ผู้คน ไม่เคารพในค่าสมอง ค่าวิชาชีพ ของคนอื่นครับ ลูกค้าก็จะได้งานที่ไม่มีคุณภาพ เพราะผู้รับเหมาก็ต้องเอาค่าออกแบบไปบวกไว้ในงานรับเหมา มันก็เป็นต้นทุนของเขาอยู่ดี เขาอยากได้งาน เขาก็ต้องแอบไปลดเสป๊คของวัสดุอุปกรณ์ ลดขั้นตอน คุณภาพลง เพราะเราไม่ชอบความตรงไปตรงมากัน
นักออกแบบทุกท่าน เขาก็มีต้นทุนงานนะครับ ไม่ได้ใช้สมองอย่างเดียว ต้องกินข้าว กินกาแฟเหมือนกันครับ ต้องพัฒนาฝีมือ ไปกับอุปกรณ์ IT โปรแกรมงานต่างๆ ต้องเรียนรู้เพิ่ม ต้องซื้อลิขสิทธ์โปรแกรม (ถ้าไม่มีทุนก็หนีไม่พ้น หาโปรพร้อมยาแก้ไอ...แค๊กๆๆๆ) เอามาทำงานพรีเซ๊นท์สวยๆให้ท่านดู ประเทศในยุโรป แค่เขาเดินทางมาดูไซต์งานท่าน เขาก็คิดค่าเสียเวลาเขาแล้วครับ นี่ของเราบางที่วัดไซต์งานอย่างเดียวก็อ๊วกแลัวครับ ไม่คิดค่าเสียเวลาซักบาท ไม่ถามถึงสุขภาพซ๊ากคำ
                   สุดท้าย อาชีพนี้ก็หนีไม่พ้น วังวนเรื่องของการตัดราคา ยอมลด ยอมซ่อนค่าวิชาชีพกัน เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ลูกค้าก็ได้ใจ เพราะมีคนยอมเป็นเบี้ยล่าง (แอบเอาคืนภายหลัง)
                  ก็เอวังกันไปครับ คงได้แต่บ่นๆๆๆ ผมได้แต่เชื่อในเรื่องกรรมนะครับ ท่านเอาเปรียบใครไว้ ซักวันท่านก็ต้องชดใช้ครับ แค่ท่านอาจจะมองไม่เห็น ไม่สำนึกแค่นั้นเองครับ บ่นๆไปเผื่อๆมีลูกค้าที่น่ารักเข้ามาอ่านเจอครับ อย่าดูถูกค่าวิชาชีพ ค่าสมองของนักออกแบบเลยครับ ไม่เชื่อลองหาอ่านบทความเก่าๆที่ผมเขียนดูครับ ว่ากว่าจะทำงานให้ท่านสำเร็จ มันมีข้นตอน และระยะเวลางานนานแค่ไหน บ้านท่านจะสวยงามน่าอยู่ อยู่แล้วมีแต่ความสุข ความเจริญ ท่านก็ต้องวางรากฐานมาจากความดี ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นนะครับ คุณลูกค้าที่น่าร๊ากกก
ฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วยนะครับ ตามด้านล่างนี้เลยครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562

แต่งคอนโด ย่านทองหล่อ สไตล์อังกฤษ ร่วมสมัย

                    วันนี้ผมเอาแบบงานตกแต่งภายใน คอนโดหรูย่านซอยทองหล่อ ของลูกค้านักเรียนนอกท่านหนึ่งซึ่งชื่นชอบงานตกแต่งในสไตล์ "English Contemporaly" มาให้ดูชมเป็นตัวอย่างกันนะครับ ก็เป็นคอนโดขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนกับส่วนนั่งเล่น ทานอาหาร
จากรูปภาพแบบแปลน ทางเข้าห้องจะอยู่ด้านซ้ายมือ เปิดประตูเข้ามาด้านซ้ายจะเป็นส่วน Pantry ครับ
                    มุมนี้คือมองจากระเบียงห้องไปที่หน้าประตูทางเข้า แนวทางการออกแบบก็จะเป็นการกรุผนังงานไม้ ทำสีพ่น กับปิด Wall Paper ลายทางยาวครับ
                    มุมนี้ก็จะมองจากประตูทางเข้า กลับไปที่ระเบียงห้อง ด้านซ้ายมือเป็น Pantry ต่อด้วยมุมรับประทานอาหาร ที่นังกรุกระจกเงาเจียรเหลี่ยมมุม ช่วยสะท้อนให้ห้องกว้างขึ้น
                    มาต่อที่ภายในห้องนอนครับ ห้องนอนจะไม่มีระเบียงนะครับ มุมนี้มองจากหน้าต่างเข้ามาที่ด้านใน เป็นห้องน้ำ งานออกแบบจะกรุผนังงานไม้ลูกฟัก ทำสีพ่นสีเขียวอมเทาเข้ม ที่หัวท้ายเตียง ส่วนผนังที่เหลือก็จะปิดเป็น Wll Paper สีเขียวลายทาง
                    มุมนี้มองแบบตัดเอาห้องน้ำออกนะครับ ผมเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เป็นงานไม้สีเข้ม สไตล์คอนเท็มโพลารี่ เรียบๆ ผ้าม่านใช้สีครีมอมเขียวนิดหน่อย สว่างๆ จะช่วยลดความเข้มของสีเขียวลงได้ครับ หน้าห้องน้ำแขวนกรอบกระจกเงาเต็มตัวไว้ ช่วยขยายมุมมองห้องให้กว้างขึ้น
ฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วยนะครับ ตามด้านล่างนี้เลยครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ฮวงจุ้ย "คอนโด ห้องไหนในแบบแปลน อยู่แล้วดี ไม่เดือดร้อนภายหลัง"

             บทความนี้ผมจะเอาประสบการณ์ในการทำงานให้กับเจ้าของห้องพักอาศัยในคอนโด และประสพการณ์ที่ผมอยู่อาศัยในคอนโดของผมเอง มาบอกเล่าให้ฟังว่า เวลาจะซื้อและเลือกตำแหน่งของห้องในอาคารชุด ปัจจัยที่มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตในห้องนั้นๆ ในระยะยาว มีข้อควรระวัง ในการเลือกตำแหน่งของห้องในผังแบบแปลนอาคารอะไรบ้าง ที่จะทำให้ท่านอยู่โดยไม่เดือดเนื้อร้อนใจในภายหลัง อยู่อย่างมีความสุขโดยไม่ถูกสภาวะแวดล้อมรบกวน หรือถูกรบกวนให้น้อยที่สุด ท่านเลือกได้ตั้งแต่ตอนตัดสินใจครั้งแรกๆนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจัยทั้งหมดที่ว่ามา มักจะผูกด้วยเงื่อนไขของผู้ขายโครงการว่าตำแหน่งที่ดี ย่อมแพงกว่าตำแหน่งที่ถูกกว่า ในขนาดพื้นที่ที่เท่ากัน แต่บางครั้ง ห้องที่แพงกว่าวิวอาจจะดีกว่า ก็อาจนำมาซึ่งปัญหาที่ท่านต้องแบกรับในภายหลังโดยท่านไม่ทราบมาก่อนก็มีครับ ลองตามมาดูกันครับ
              ข้อแรกเลยคือการเลือกชั้นของห้อง ปกติช้ันที่อยู่สูงๆ ก็จะขายแพงกว่าชั้นต่ำๆ เหตุเพราะ วิวสวยกว่า มุมมองกว้างไกลกว่า โดยเฉพาะชั้นที่สูงที่สุดคืดติดดาดฟ้าอาคาร คนที่มีกำลังจ่ายเยอะกว่าจึงมักจะเลือกชั้นสูงสุด บางอาคารก็จะขายเป็นห้องที่เรียกว่า PENTHHOUSE แต่ปัญหาที่หลายๆอาคารเจอคือ
              -ความร้อนที่เกิดจากแสงอาทิตย์โดยตรงแทบทั้งวัน ถ้าสถาปนิกออกแบบโดยไม่คิดถึงระบบป้องกันที่ดีมีหลังคา หรืออะไรก็ตามที่มาช่วยบดบังแสงอาทิตย์ ค่าไฟฟ้าที่เกิดจากการใช้เครื่องปรับอากาศจะตามมาแทนครับ ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาที่ไม่ต้องรอเวลาให้เนิ่นนาน คือ เจอตั้งแต่แรกอาศัยเหล่ะครับ
              -ปัญหาน้ำรั่วซึมจากดาดฟ้า หลายๆอาคารเมื่ออายุการใช้งานผ่านไปหลายปี ถึงจะเจอปัญหานี้งอกมาให้เห็น อันนี้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานในการก่อสร้างครับบวกกับปัจจัยแวดล้อมบางประการที่ผมจะพูดถึงในข้อต่อๆไป
              -เดินกันให้เข็ด เมื่อไฟดับ หรือเกิดเพลิงไหม้ ครับใช้ลิฟท์โดยสารไม่ได้ไงครับ ยิ่งสูงยิ่งหนาวขาสั่นเลยครับ คิดดูว่าถ้าท่านอยู่ชั้น 30 จะเดินไงไหวครับ ใครไม่พร้อมรับมือข้อนี้ควรระวังครับ ถึงจะเกิดไม่บ่อย ก็ต้องคิดนะครับว่าท่านพร้อมหรือไม่
              ข้อที่สอง ห้องที่อยู่ห้องหัวมุม หรือห้องริมสุดของอาคาร ปัญหาก็จะคล้ายๆห้องชั้นบนสุดคือ เรื่องความร้อน กับน้ำรั่วซึมจากฝน ห้องริมสุดในทางโครงสร้างอาคาร จะมีรอยเชื่อมต่อของผนังอาคารกับเสาหรือคาน ซึ่งรอยต่อเหล่านี้ เมื่อผ่านร้อน ผ่านฝนมาเป็นเวลาหนึ่งๆ ก็จะเกิดรอยแตกร้าวทำให้น้ำรั่วซึมเข้าห้องได้ครับ เป็นประเด็นให้เจ้าจของห้องบางท่านใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ยอมจ่ายค่าส่วนกลางกันมาเยอะแล้วครับ ว่าถ้านิติบุคคลไม่ซ่อมให้ ฉันก็จะไม่จ่ายค่าส่วนกลาง ส่วนเรื่องความร้อนจากแสงแดดก็คือ ห้องริมก็จะปะทะรับแสงแดดไปเต็มๆ มากกว่าห้องที่อยู่ด้านในๆครับ
              ข้อที่สาม ห้องที่อยู่ติด พื้นที่ส่วนกลาง สวน หรือติดกับสระว่ายน้ำไม่ว่าจะด้านข้าง หรืออยู่บนหัวคือไปอยู่ใต้ชั้นของพื้นที่เหล่านี้ จะมีปัญหาที่เกิดจาก
             -ความชื้น และอาจจะมีน้ำรั่วซึมได้ครับ เมื่อผ่านระยะเวลาหนึ่งๆ ซึ่งทำให้เกิดเชื้อราในห้องได้ มีปัญหาเรื่องสุขภาพโดยไม่รู้ตัว เฟอร์นิเจอร์พังเสียหาย ผนังสีร่อน
             -สัตว์เลื่อยคลานประเภท ไส้เดือน ตะขาบ มด ปลวก ที่มาจากดิน ความชื้น อ้อใครคิดว่าอยู่คอนโดสูงๆไม่มีปลวกนี่ คิดผิดถนัดนะครับ โดนมาเยอะแล้วครับ
             -ขาดความเงียบสงบ ความเป็นส่วนตัว ที่เกิดจากลูกบ้านท่านอื่นๆ ที่คอนโดผมมีลู่วิ่งอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า ปรากฎว่า เวลามีคนตัวใหญ่ๆวิ่งออกกำลังตอนเช้าๆนี่ ถึงกับนอนไม่ได้เลยนะครับ ต้องมาฟ้องนิติบุคคลให้แก้ปัญหา
             -โอกาศในการสัมผัสกับกลิ่นบุหรี่ได้ง่ายกว่าห้องอื่นๆ ที่จริงเดี๋ยวนี้กฎหมายบังคับ ไม่ให้สูบบุหรี่ภายในอาคารพักอาศัยร่วมกัน แต่ก็ยังพบว่ามีคนบางจำพวกยังฝ่าฝืน ละเลยไม่สนใจใคร และโดยความเป็นจริงก็ยังมีหลายๆคนสูบบุหรี่ภายในห้องของตัวเอง หรือที่ระเบียง แล้วกลิ่นมันยังคงไปรบกวนห้องข้างเคียง ให้ได้รำคาญและฟ้องนิติบุคคลอยู่เรื่อยๆครับ แก้ยากครับข้อนี้
             ข้อที่สี่ ห้องที่อยู่ใกล้ลิฟท์ บันได ที่ทิ้งขยะ ทางสามแพร่งหรือสามแยกตรงทางเดินบันได อันนี้นี่ทางฮวงจุ้ยก็จะบอกว่าไม่ดีอย่างยิ่ง บ้างก็ว่าเป็นทางผีผ่าน แต่ในทางวิทาศาสตร์ มันก็คือขาดความเป็นส่วนตัว เป็นโซนที่มีความพลุกพล่านของการใช้งาน การสัญจรหนาแน่นมีเสียงรบกวนครับ
             ข้อที่ห้า ห้องที่อยู่ฝั่งเดียวกับทิศตะวันตกดิน โดยไม่มีอะไรบัง ก็จะโดนแสงแดดยามบ่าย ทำให้ร้อนระอุ อันนี้เปลืองค่าไฟหน่อยครับ
             ข้อที่หก ห้องที่อยู่ฝั่งเดียว หรือใกล้กับวัด เมรุ โบสถ์ สุเหร่า รวมถึงสถานที่อโคจรทั้งหลาย และปิ้งย่าง หมูกระทะ ท่านจะได้ยินสรรพเสียงทั้งน่าฟัง และน่าขนลุก น่ารำคาญ กลิ่นสรรพสัตว์ทั้งหลาย อันนี้ถ้าท่านรับได้ก็ไม่มีปัญหาครับ
             สรุปคร่าวๆก็จะประมาณนี้ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการวางระบบ การออกแบบที่ดี การก่อสร้างที่ดี ของแต่ละอาคาร จริงๆการอยู่อาศัยในคอนโด มีปัญหาปลีกย่อยจุกจิก กวนใจเยอะครับ ไม่เชื่อก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดซักห้อง ลองไปพูดคุย หรือหาอ่านข้อมูลในกูเกิ้ลดู แล้วท่านจะพบว่าลองทบทวนตัวเองดูก่อนดีกว่ามั๊ยครับ
ฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วยนะครับ ตามด้านล่างนี้เลยครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior

วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เมื่อ Co-Working Space รวมร่างเป็น Press Conference


"จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Co-Working Space รวมร่างเป็น Press Conference" หัวข้องานออกแบบตกแต่งภายใน วันนี้ เกิดขึ้นเพราะว่าผมไปได้รับโจท์จากนักการเมือง หัวก้าวหน้า ท่านหนึ่ง ที่มีความรู้สึกว่า พรรคที่ท่านสังกัดอยู่นะตอนนั้น(หุๆๆ แปลว่าตอนนี้ ไม่ได้สังกัดแล้วนะครับ)มีภาพลักษณ์ที่เป็น คนรุ่นเก่าบริหารในสายตา ปชช คนรุ่นใหม่ เลยมีความคิดว่า อยากจะปรับปรุงห้องแถลงข่าวเดิมที่มีอยู่ ซึ่งเป็นด่านแรกๆที่ ผู้คนจะมองเห็นจากสื่อต่างๆได้โดยง่ายที่สุด ให้มีภาพลักษณ์ของ คนรุ่นใหม่ๆ มีวิสัยทัศน์เมาะอย่างยิ่งที่คนรุ่นใหม่จะเลือกเข้ามาเป็นตัวแทนส่งเสียงให้ ท่านก็เลยให้ไอเดียมาว่า อยากได้ห้องแถลงข่าวที่ ปกติจะใช้งานเดือนนึง ไม่กี่ครั้ง เป็นห้องเอนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็น Co-Working Space ได้ด้วย และเพื่อผลพวงคือ เวลาออกสื่อ คนจะได้เห็นบรรยากาศของห้องแถลงข่าวรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่ได้มีแต่ที่นั่งของนักข่าวเท่านั้น เพื่อสร้างภาพจำใหม่ให้กับ ปชช
นั่นเหล่ะครับที่มาของงานนี้ ไม่ยากไม่ง่ายครับ เพราะเงื่อนไขคือ "อย่าแพง และไม่ต้องไปแตะโครงสร้างเดิม ของอาคารที่เพิ่งทำพื้น ทำฝ้า ทำไฟ มาใหม่หมาดๆ" หุๆ อันนี้ผมชินแล้วครับ เงื่อนไขแบบนี้
มาดูที่แบบแปลนก่อนเลยครับ เป็นพื้นที่ขนาด 8x12 ตรม. มีประตูทางเข้าอยู่สองทางครับ แต่ผมเลือกปิดตรงตำแหน่งที่ผมวาง ตัว Back Drop เวทีครับ ให้เข้าจากประตูด้านข้างแทนจะได้มีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่ครับ ข้อจำกัดพื้นที่จริงๆคือ มีเสาสองต้นอยู่กลางพื้นที่ครับ เลี่ยงไม่ได้ก็เลยจัดโซนกลางเป็นเวที ซ้ายขวาเป็นพื้นที่ Co-Working Space 

พื้นที่ก่อนทำการตกแต่งโล่งๆแบบนี้ครับ
Concept ในการออกแบบ ก็จะดึงเอา Theme สีหลักๆของพรรค มาใช้เล่นสีในองค์ประกอบในงานออกแบบคือ น้ำเงิน ขาว แดง และเลือกตัวที่นั่งให้เป็นแบบเก้าอี้ที่ดูโมเดิร์นหน่อย เวลาไม่มีแถลงข่าว ก็ยกเก็บได้
ผนังด้านขวามือทาสีเทาเข้ม เพื่อเน้นให้ดูแตกแต่งมีดีไซน์เพื่อแก้เลี่ยนของผนังสีขาวโดยทั่วไปครับ ตรงกลางระหว่างสองผนัง เป็นทางเดินเข้าพื้นที่ด้านหลังซึ่งเป็นห้องไฟฟ้า กับห้อง Pantry
มุมนี้เป็นด้านขวามือของเวที ออกแบบเป็นมุมที่มีเคาน์เตอร์สูงนั่งริมหน้าต่าง และใช้โคมไฟห้อยเหนือเคาน์เตอร์ เน้นมุมนี้โดยเฉพาะ โดยรอบห้องใส่มู่ลี่แบบโรลเล่อร์ม้วนกึ่งทึบกึ่งโปร่ง
ผมออกแบบส่วน Partition เตี้ยกั้นส่วนนี้กับเวทีแบบเตี้ยๆโปร่งๆ เพื่อให้มีสัดส่วน แต่ไม่ปิดกั้น คือยังมองเห็นถึงกัน มีความเชื่อมต่อเวลามีการแถลงข่าว โดยออกแบบให้เป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีต่างๆ และเป็นกล่องทะลุ กับกล่องทึบผสมกัน ส่วนผนังห้อง Pantry ที่ของเดิมเขาแปะแผ่นยิบซั่มบอร์ดทาสีไว้ ผมเอาตัวแผ่น Plasswood เจาะฉลุลาย ทำสีขาวแปะลงบนพื้นลสมิเนตสีขาวอีกที
มุมนี้มองออกไปด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ เลยออกแบบให้มี Partition โปร่งๆสูงจดเพดาน ทำจากแผ่น Plasswood ทำสีขาว กั้นให้ดูไม่ประเจิดประเจ้อมากนักดูเป็นสัดส่วนหน่อย
มุมด้านซ้ายมือของเวที ออกแบบให้เป็นส่วนที่นั่งสบายๆเตี้ยเอนหลังได้ เป็นแบบพล๊าสติกแข็ง บุหนังเทียม สีขาว สลับดำ เพิ่มความโมเดิร์นโดยรวม มีมุมแขวนจอทีวีบนเพดาน
ทั้งหมดนี้ เน้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ลอย ที่สามารถยกเก็บ ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้แบบเอนกประสงค์ จัดเป็นห้องประชุมขนาดย่อมๆได้เลยครับ
ฝากติดตามผลงานอื่นๆด้วยนะครับ ตามด้านล่างนี้เลยครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2562

Review Idea "ออกแบบ ตกแต่งภายใน ร้านขายยา" ภายในอาคารพาณิชย์

               ร้านขายยาที่จะพามาดูวันนี้ ทำเลอยู่ในอาคารพาณิชย์ หรือที่เรียกว่า ตึกแถว นั่นเองครับ อยู่ย่านชานเมืองกรุงเทพแถวๆ ฝั่งธนบุรี โดยที่Conceptual Idea สำหรับการออกแบบร้านขายยาร้านนี้คือ สมัยใหม่ดูเด่นเห็นได้ง่ายจากภายนอก งบประมาณพอได้ ไม่ต้องหรู มาตรฐานคนทั่วไปกล้าเข้าร้านครับ แต่ให้ดูดีเป็นหลัก ต่างจากร้านขายยาอื่นๆ งั้นมาดูกันครับ
         แบบแปลนตัวอาคารเป็นเหมือนอาคารพาณิชย์ทั่วไป คือหน้ากว้างมาตรฐาน 4 เมตร ลึก 16 เมตร ซึ่งลึกเกินความจำเป็นใช้งานนะครับ เลยวางแบบแปลนให้ใช้งาน แค่สองล๊อก คือ 8 เมตร แล้วกั้นเป็นห้องด้านหลังมีประตูเลื่อนแบ่งแยกพื้นที่
Theme สีโดยหลักๆคือ ขาวฟ้าเขียวตามโลโก้ร้าน เริ่มจากหน้าร้านทาผนังปูนด้วยสีฟ้ากลางๆ ทำกล่องป้ายหน้าร้าน สีฟ้าเข้มเน้นๆหน่อย และกั้นแผงหน้าร้านประตูทางเข้าด้วยงานอลูมิเนียมสีขาว กรุกระจกใส
อันนี้เป็นรูปสถานที่จริง หน้าร้านก่อนตกแต่งครับ
อันนี้ภายในร้าน จะเห็นว่าเป็นเพดานสูงถึงชั้นลอย ซึ่งเกินความจำเป็นที่จะต้องมีฝ้าเพดานสูงขนาดนั้น
เข้าร้านมาก็จะเจอผนังด้านซ้าน ขวา ที่เว้นระยะติดงานกราฟฟิกเกี่ยวกับยา สีสันสดใสเพื่อให้เกิดมุมมองที่น่าสนใจจากภายนอก ดูมีอะไรมากกว่าร้านขายยาดาดๆทั่วไป ซ้ายมือวางตู้กดน้ำดื่ม สำหรับลูกค้าเมื่อซื้อยา สามารถกดทานได้เลย ฝ้าเพดานกรุเรียบ ลดระดับความสูงลง เหลือประมาณ 2.60 เมตรก็เพียงพอแล้วครับ
ถัดมาเป็นเคาน์เตอร์แคชเชียร์มุมโค้ง มีแผงกั้นกันตก และเพื่อความเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วนตัว ต่อเชื่อมด้วยตู้เตี้ยกระจกใส ด้านหลังเคาน์เตอร์ทำเป็นตู้ Buit In งานไม้MDF ปิดผิวด้วยลามิเนตสลับสี ฟ้าเขียว ของบริษัท Wilsonart ติดป้ายชื่อแบ่งหมวดหมู่ยา ด้านบนของตู้แต่ละช่อง หน้าบานเป็นบานเปิดกระจกใส ในตู้ซ่อนไฟให้ความสว่างไว้ด้านบน
ด้านขวามือเป็นตู้ชั้นโชว์เปลือย แขวนและวางสินค้า ที่ลูกค้าสามารถหยิบจับได้เอง ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ที่สามารถปรับระดับได้ ของบริษัท HAFELE ตัวตู้ด้านล่างเป็นที่เก็บของ หน้าบานเลื่อนใส่กุณแจล๊อกได้ครับ เชื่อมต่อกับตู้ Built In ด้านใน จะเห็นที่วางตีจู๋เอี๊ย กับที่วางบูชาพระ ก่อนเข้าไปที่ส่วนด้านหลังร้าน เป็นพื้นที่ส่วนตัว พื้นของร้านใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ของเดิมของอาคาร สีครีมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรครับ
โดยรวมๆ ร้านนี้ก็จะใช้งบประมาณไปกับตัวงานตู้ Built In ค่อนข้างเยอะที่สุด ระบบไฟนิดหน่อย พื้นไม่ต้อง ก็ราคาโดยรวมอาจจะลงทุนมากกว่าร้านทั่วไปนิดหน่อย แต่ดูดีกว่ามากครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562

Review "ร้าน Milk Cafe-Gift & Internet สาขา2" ในตึกสำนักงาน(แบบประหยัดงบ)

                      ร้านคาเฟ่ชานมไข่มุก ร้านนี้ เป็นสาขาที่2 ต่อจากร้านเดิมที่ผมเคยนำมาลงไปแล้วครับ โดยที่คราวนี้ทำเลของร้านเป็นอาคารสำนักงานที่ เปิดเป็นโรงเรียนสอนพิเศษสำหรับเด็กนักเรียนด้วย ก็เหมาะที่จะมีร้านชานมไข่มุกมารองรับเป็นอย่างมาก โดยตำแหน่งของร้านอยู่ที่ชั้นล่างหน้าทางขึ้นลิฟท์พอดี ตรงกับประตูทางเข้าอาคาร และบันได ทำเลค่อนข้างดี แต่เสียตรงที่ตัวร้านหลบเข้ามาด้านในอาคาร ทำให้ถ้าเดินอยู่ริมถนน จะสังเกตุไม่ค่อยเห็นหน้าร้าน ผมเลยแนะนำเจ้าของร้านว่า ให้ทำป้ายกราฟฟิคสีแจ่มๆ ไปติดที่หน้าอาคารเพื่อช่วยให้คนมองเห็นครับ
               ตัวพื้นที่ตอนที่มาทำก็เป็นห้องโล่งๆ เรียบร้อยดี แต่เพดานค่อนข้างเตี้ยไปหน่อย พื้นที่ร้านเป็นตัวแอล อ้อมหลังลิฟท์ หน้าร้านเลยออกจะแคบไปหน่อยครับ อีกอย่างเจ้าของอาคารแกเล่นเอาตีจู๋เอี๊ย(เจ้าที่จีน) มาวางไว้ตรงหน้าร้านเลย ย้ายก็ไม่ได้ด้วย เลยดูแปลกๆตาอยู่ หุหุ อันนี้มองได้สองมุมนะครับ สำหรับผมคือ จะมองว่า ฮวงจุ้ยดี ก็ได้ ไม่ดีก็ได้ เพราะการที่มีเจ้าที่มาวางอยู่ในตำแหน่งที่คนต้องสัญจรไปมาเนี่ย ถ้าทำดีหมั่นดูแลกราบไหว้ ท่านก็จะให้คุณ แต่ถ้าไม่ดูแล ไม่เคารพกราบไหว้ ท่านก็อาจจะไม่ช่วยเหลือเอาได้ครับ
                                      รูปนี้เป็นหน้าร้าน ถ่ายจากสถานที่จริงหลังตกแต่งครับ
                                               ส่วนรูปนี้ภายในร้านรูปจริงหลังตกแต่งครับ
                    ตัว Conceptual Design ก็อิงจากสาขาแรกมาเกือบหมด เพื่อที่จะได้สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้ง่ายไปก่อนครับ โทนสีหวานๆสไตล์ K Brand

              มุมมองด้านหน้าร้านก็ไม่ได้ทำอะไรมากครับ เพราะใช้ของเดิมที่มีอยู่แล้วเพื่อประหยัดงบ แต่เสริมป้ายร้านเป็นกล่องไฟแบบแขวนผนังตรงข้างประตูทางเข้า
เมื่อเดินเข้ามาในร้านทางซ้าย วางตู้ขายของ Gift Shop K Product ศิลปินแดนกิมจิ ด้านขวาเป็นเคาน์เตอร์บริการจอ Internet แบบทัชสกรีนเนื่องจากแถวนั้นมี Hostel ให้ชาวต่างชาติมาพักเยอะครับ
ตัวผนังร้าน ใช้การทาสีชมพูนมเย็น แล้วตัดด้วยลายเส้นสีขาวสองเส้น ตรงจุดนี้ก็เป็นการใช้ลายเส้นของสี มาเล่นช่วยเรื่องการประหยัดงบได้ดีครับ
มุมด้านในส่วนหลังร้าน พื้นกับเพดานเป็นของเดิมอาคาร ไม่ได้ใส่งบลงไปทำอะไรครับ
มุมมองจากด้านในเคาน์เตอร์ มองออกไปจะเห็นประตูทางเข้าร้าน ผนังด้านขวามือ กรุด้วยแผ่น Wave Board ของ บ.POLY DEC ทำสีพ่นกึ่งๆเงานิดหน่อย 
ตัวเคาน์เตอร์เป็นงานโครงไม้ กรุปิดแผ่นลามิเนตสลับสี ปิดทับด้วยแผ่นวงกลมเลียนแบบเม็ดไข่มุกขนาดต่างๆกัน ด้านข้างมุมนี้วางตู้หนังสือให้หยิบอ่านครับ
มุมนี้ให้ดูกันชัดๆครับ

แบบแปลนโดยภาพรวมครับ มุมที่เห็นเป็นห้องกล่องขาวๆนี่คือห้องลิฟท์ของอาคารครับ
โดยรวมร้านนี้ใช้งบประมาณน้อยมากครับ มีตัววัสดุที่แพงนิดหน่อยคือเจ้าตัว Wave Bord แต่ก็ใช้ไม่มาก เพราะถ้าทาสีอย่างเดียว ตัวร้านมันจะดูเฝือไม่มีจุดเบรกดีไซน์ครับ จบแล้วครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior