วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559

"ผู้รับเหมา..ทิ้งงาน" ทำไม?...หลีกเลี่ยงอย่างไรดี?

"ผู้รับเหมา..ทิ้งงาน"ทำไม?...หลีกเลี่ยงอย่างไรดี?
             ปัญหายอดฮิตติดลมบนเลยใช่มั๊ยครับ   ไม่ว่าจะเป็นงานรับเหมาอะไรก็แล้วแต่ ก่อสร้าง ตกแต่งภายใน ไฟฟ้า ประปา บลาๆๆๆ จิปาถะ ปัญหาที่เจ้าของบ้านกลัวอันดับต้นๆเลยครับ แต่ใช่ว่าจะเป็นแต่เจ้าของบ้านนะครับ ผู้รับเหมา รวมถึง นักออกแบบ ก็กลัวเจ้าของบ้านเกเรเหมือนกันครับ โดนกันมาเยอะแล้ว ไม่เชื่ออย่าลบหลู่กันเชียว
              ส่วนสาเหตุ ที่มาที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน(ที่จริงแล้ว เป็นส่วนน้อยนะครับ) มีหลากหลายเหตุกันครับ
        1.ตัดราคาคู่แข่งเพื่อเอางาน ประเด็นนี้ผมว่ามากที่สุดเลยครับสำหรับการทิ้งงาน คือหน้ามืดแล้ว กะว่าไปตายเอาดาบหน้า รับงานมาก่อนแล้วไปบีบลดต้นทุนเอา ซึ่งต้นทุนก็คือคุณภาพแรงงาน คุณภาพวัสดุ หรือโกงสเป๊ค ถ้าเจ้าของ หรือผู้ออกแบบจับได้ ก็เตรียมชิ่งหนีสิครับ

        2.บริหารการเงินผิดพลาด เอาเงินของโครงการนี้ไปโปะโครงการนั้น พออีกโครงการมีปัญหา ก็พาลงเหวกันหมด หรือได้เงินมาแทนที่จะไว้ใช้ทำงาน ก็เอาไปหมุนใช้ส่วนตัวก่อน พอเงินช๊อตก็ลามสิครับท่าน คือไม่ได้ตั้งใจโกงแต่แรก แต่ภายหลังเปลี่ยนใจ สรุปหนีสิครับ

        3.รับงานโดยไม่มีแบบ ไม่มีผู้ออกแบบดูแล คือ เจ้าของบ้านจิ้มเอาจากรูปแบบที่ต้องการกับผู้รับเหมา แล้วตกลงราคากัน พอทำงานไปแล้ว ภาพที่ออกมาไม่ตรงกับที่เจ้าของบ้านวาดฝันไว้ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไข แก้ไปแก้มา เสียหายสิครับ เงินก็ไม่ได้เพิ่ม ท่าจะไม่ดี โกยดีกว่าครับ
        4.โดนเจ้าของบ้านเอาเปรียบ กดราคา แก้ไขงานบ่อย จุกจิกจู้จี้ ขี้ระแวง ชอบขอแถม จ่ายเงินช้า หูเบา เชื่อเพื่อน คุณสมบัติเหล่านี้ มีจริงๆนะครับ ผู้รับเหมาที่เขาทนไม่ไหว แถมกำไรน้อยใครเขาจะทนละครับ ไปดีกว่า

        5.มิจฉาชีพในคราบผู้รับเหมา มีจริงๆเช่นกันครับ คือ ตั้งใจโกงมาจากบ้านเลย และส่วนมาก เจ้าของบ้านที่โดนคือ ผู้ที่ชอบของถูกครับ เพราะของถูกคือเหยื่อล่อ กับดักที่ดีที่สุด ข้อสังเกตุคือ ผู้รับเหมาแบบนี้มักจะ ง่ายๆ อะไรก็ได้ ราคาได้ เวลาได้ แถมได้ แต่พอได้เงินปั๊บ หายสิครับ
        แล้วเราจะหลีกเลี่ยงกับผู้รับเหมาที่ทิ้งงานอย่างไรดี...? ถ้าเอาแบบ 100 % ไม่มีครับ แต่พอลดความเสี่ยงได้ดังนี้
        1.เสี่ยงมากที่สุด คือ อยากจ่ายถูกแต่ได้ของดี ไม่ว่าคุณจะหาผู้รับเหมามาจากทางไหนก็ตาม ของถูกแต่ดี มีครับ แต่หายากมาก เหมือนแทงหวยเลย
        2.ดังนั้น ยอมจ่ายในราคาที่เหมาะสมก่อนครับ แล้วค่อยสรรหาโดย
           -ขอให้คนที่รู้จัก เคยใช้งานแนะนำผู้รับเหมาที่คิดว่าดี มั่นใจว่าดีให้
           -มีผู้ออกแบบงานที่ดีไว้ใจได้ แนะนำให้
        3.และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คุณควรจะไปดู ไปเห็นผลงานของผู้รับเหมา ทั้งๆที่ทำอยู่ และเสร็จไปแล้ว เจอตัวเจ้าของบ้านนั้นยิ่งดี (แอบๆคุยดูก็ได้ครับ แต่ส่วนมากถ้าเจ้าของบ้านนั้นๆ ยอมเจอตัวด้วย ก็น่าจะพอใจในผู้รับเหมารายนั้นๆครับ)
        4.เมื่อเลือกผู้รับเหมาได้แล้ว
           -อย่ากดราคา ต่อรองจนเกินไป(ใครที่ชอบคิดว่า อย่างน้อยต้องลดไม่ต่ำกว่า 10% สมัยนี้ไม่ได้แล้วครับ กำไรไม่เยอะเหมือนตะก่อนแล้วครับ)
          -ดูสัญญาจ้างให้รัดกุม Win Win ทั้งสองฝ่าย
        5.เมื่อผู้รับเหมาเข้าทำงานแล้ว
          -อย่าเปลี่ยนแบบ แก้ไขงานพร่ำเพรื่อ
          -อย่าจ่ายเงิน ดึงเงินช้า ยือหยุ่นบ้างเวลาเปอร์เซ็นงานไม่ตรงเป๊ะแต่ให้บาลานส์ปริมาณงานได้
          -อย่าหูเบา ฟังเพื่อนบ้าน ญาติ แม้แต่ตัวช่างที่อยู่หน้างานเป็นลูกน้องผู้รับเหมา บางคนแอบแฮ้บงานโดยตรงกะท่าน ว่าไม่ดีนู่นนี่ ไม่ได้ห้ามให้ไม่เชื่อครับ แต่ต้องพิจารณาดีๆ
          -เข้าไปดูงานบ้าง แต่ไม่ใช่แทบทุกวัน เอาตามเนื้อผ้าครับ แล้วหาของกินติดไม้ติดมือไปฝากช่างบ้าง น้ำใจช่วยได้ครับ
          ทำได้ตามนี้ ลดความเสี่ยงโดนทิ้งงานไปเยอะ แต่ผมไม่การันตี 100% นะครับ ความแน่นอนคือ ความไม่แน่นอน โชคดีครับ ท่านเจ้าของบ้าน และท่านผู้รับเหมาทั้งหลาย

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Idea Renovate "สวนอาหาร กลางเมือง" ด้วยแนวคิด "การตลาดด้วย Social Photo"

                   
            วันนี้ผมมี Idea ในการออกแบบปรับปรุง สวนอาหาร ย่านกลางเมืองแห่งหนึ่ง โดยใช้แนวความคิดเรื่องการตลาดในยุคที่ผู้คนบ้าถ่ายรูปลง Social ต่างๆกัน มาดึงให้ผู้ที่มาใช้บริการของร้าน ช่วยกันแชร์รูปถ่ายสถานที่ร้าน ให้คนได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เสริมจากบริการ และรสชาติอาหารของทางร้านนะครับ


                   มาดูที่สภาพเดืมก่อนปรับปรุงครับ เป็นภาพหน้าร้านทั้งตอนกลางวัน และหัวค่ำ ร้านติดถนนซอย ที่มีรถวิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ( มีที่จอดรถอยู่ที่ด้านหลังร้านแบบสบายๆเลย )จะเห็นว่าเวลาขับรถผ่าน เมื่อมองเข้าไปในร้านมุมมองจะถูกรั้วและต้นไม้ที่รกๆ บดบังสายตา โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ไฟจากป้ายหน้าร้านจะสว่างจนแยงตาไม่ให้เห็นบรรยากาศภายในร้านเลย ทั้งๆที่ร้านอยู่ในตำแหน่งที่ดี คือใกล้ทางเลี้ยวโค้งก่อนถึงร้าน รถต้องชลอ และรถติดพอสมควร


                    มุมมองโซนหน้าร้าน มองจากด้านในร้านย้อนมาที่ถนน จะเห็นว่ารกมาก และมีศาลาเล็กๆบังอยู่ที่มุมด้านซ้ายบน ส่วนจอผ้าใบก็อยู่ในตำแหน่งที่ไม่สวยงามบดบังมุม

                  ด้านซ้ายที่เห็น เป็นส่วนในร่ม ไม่ได้กั้นห้องประมาณ 3 ล๊อกเสา ขวามือเป็นส่วนกลางแจ้งครับ ตรงนี้สรุปกันว่า จะกั้นห้องแอร์ส่วนในร่มเพิ่ม เพราะสู้อากาศร้อนไม่ไหว ทำเป็นโซนสำหรับห้อง VIP จัดเลี้ยงส่วนตัวได้

                 รูปออกแบบแปลน ให้เห็นเฉพาะโซนหน้าร้าน คุยกับเจ้าของร้านแล้วครับว่า ด้านหน้าร้านน่าจะดูโล่ง มองเข้าไปเห็นด้านลึกๆของร้านได้ ที่นั่งเยอะพอแล้ว ดังนั้นเอาส่วนที่นั่งของเดิมออกได้เลย รวมถึงศาลาด้านหน้าร้านด้วย

              แนวทางการออกแบบ ผมกำหนดไว้ว่า การที่ร้านอาหารจะดึงดูดให้ผู้คนมาใช้บริการ นอกจากเรื่องรสชาติอาหาร และบริการที่ดีแล้ว ปัจจุบันการมีพื้นที่ให้ผู้คนได้ถ่ายรูป อัพรูป ลงใน Social Media เป็นเรื่องที่ช่วยส่งเสริมด้านการตลาดได้เป็นอย่างดี บางคนไม่ได้มาทานอาหาร แต่เดินผ่านเฉยๆ เอ๊ะ...?มีที่ให้ถ่านรูปสวยๆแปลกใหม่ จัดไปสิครับ ช่วยโปรโมทร้านไปในตัว 
            เริ่มที่รื้อแนวรั้วหน้าร้าน และศาลา ออกให้หมด ตัดแต่งแนวต้นไม้ออกบางส่วน และย้ายป้ายไฟร้าน กับจอหนัง ออกไปวางไว้ตำแหน่งใหม่ที่ไม่รบกวนสายตา จะเห็นว่าป้ายไฟร้านอยู่ที่มุมขวา บนหลังคา

            หน้าร้านด้านซ้ายมือ จัดเป็นมุมปฏิมากรรมก้างปลาสีส้มเตะตา ให้เข้ากับ Concept ของร้านที่ชูเมนูปลา ทีนี้ถ้าเป็นปลาปกติ คงไม่โดนเท่าไหร่ เอาก้างปลานี่แหล่ะ แปลกดี สีส้มโดนตาอีก ปรับพื้นด้วยแนวหินกรวด หินแม่น้ำ โรยสล้บสีเป็นแนวโค้งแทนสายน้ำ ลดพื้นที่ดินที่เปียกเละออกไป มุมนี้จะเห็นลึกเข้าไปด้านในร้านที่เป็นที่นั่งยกพื้น ส่วนเอาท์ดอร์ (ผมไม่ได้ใส่ชุดโต๊ะเก้าอี้ลงไปให้ดูนะครับ)


               มุมขวามือหน้าร้าน ของเดิมที่เคยเป็นศาลา จัดเป็นมุมถ่ายรูปโดยวางคอนเซ็ปเอาไว้ว่า เอาสัญญลักษณ์ทาง Social Media ต่างๆเช่น ป้าย Shat Box ,Google Street View,Facebook Like มาเล่นกับ กล่องตัวอักษรที่เรียงสลับเป็นชื่อต่างๆได้ แต่หลักๆเลย ก็วางเป็นชื่อร้านไว้ก่อนไงครับ แล้วให้คนมาเล่นกับชื่อตัวเองอีกที 

                มุมด้านใน จะเห็นส่วนในร่มที่กั้นเป็นห้องแอร์ ผมให้ย้ายป้ายไฟร้านมาไว้เหนือหลังคาด้านหน้า ก็จะได้แสงสว่าง โดยไม่แยงสายตาเหมืนเดิมแล้ว แถมยังเห็นได้จากระยะที่ไกลขึ้นด้วยครับ

มุมในร่มก่อนปรับปรุง ดูรกและเก่ามาก หลังคากรุด้วยหวายสานแบนๆ


                    ผมออกแบบให้เป็น Concept บ้านริมทะเลนิดนึง คือ ใช้สีโทน ฟ้าขาว ทาเฉพาะภายใน ออกแนว ไม้เก่าคล้ายๆของเดิม แต่เป็นสีขาว เทา ฟ้า เพดานกรุด้วยฝ้ายิบซั่ม ทาสีขาว ห้อยไฟ ทำให้ดูสะอาดตา เรียบร้อยขึ้น ติดรูปใหม่ให้เข้ากับบรรยากาศ รื้อพวกระแนงไม้รกๆออก ให้ดูโล่งๆ
                   จบแค่นี้ก่อนนะครับ ที่จริงร้านนี้ยังมีพื้นที่ๆยังไม่ได้ไปออกแบบปรับปรุงอีก หลายมุม เจ้าของร้านบอกว่า คงค่อยๆทำไป ขายไปครับ หวังว่าคงได้ Idea เอาไปปรับใช้กันบ้างนะครับ
If U want to see Sketchup Animation pls follow at 
ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว Sketchup Animation งาน Interior มากกว่านี้ก็ที่นี่ครับ
Youtube Chanel: DAtelier Interior 
https://www.youtube.com/channel/UC2a_qS46gAISkLJ1byl5Y5A?view_as=subscriber
IG: datelier_interior

วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Review Idea Renovate "ปรับปรุง ตกแต่งภายในบ้านทาวน์เฮ้า ริมแม่น้ำ"

          วันนี้ขอนำเอางาน "รีโนเวท หรือว่าปรับปรุง งานบ้านแบบทาวน์เฮ้าขนาดใหญ่ ริมน้ำ" มาให้ดูกันครับ เป็นงานปรับปรุง เป็นส่วนๆ เฉพาะจุดครับ บ้านหลังนี้อยู่ติดริมแม่น้ำ มีปัญหางานก่อสร้างเรื่องความชื้น และปลวก แบบงาน Interior ของเดิม มีงานตกแต่งด้วยไม้อยู่ค่อนข้างเยอะพอควร แต่เจ้าของบ้านไม่อยากรื้อทั้งหมด ขอแค่แก้ไขเป็นจุดๆเฉพาะหน้าไปครับ
       เริ่มที่ห้องรับแขกกันครับ ของเดิมมุมนี้เป็นผนังตีโครงไม้ กรุไม้อัด ติดวอลล์เปเปอร์ สลับไม้ โดนปลวกและความชื้นเล่นงาน
         ไอเดียใหม่ คือรื้อโครงไม้ออกแล้ว ปูทับใหม่ด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อน ตรงกลางกรุด้วยแผ่นเวฟบอร์ด ทำจากวัสดุโพลี่คารบอเนต ปลวกไม่รัปประทานครับ ทำสีพ่นขาวทับ

          มุมนี้เป็นมุมผนัง หน้าห้องน้ำรับแขกครับ โดนปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึม ความชื้น ปลวก แบบเต็มๆ
         แก้ปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมจบแล้ว ก็รื้อสภาพเสียหายเดิมออก เปลี่ยนงานกรุผนังเป็นวัสดุประเภท หินทรายเทียม และกระเบื้องโมเสคเงา
       ห้องนอนเด็ก สองเตียง อยากเปลี่ยนเป็นเตียงเดี่ยว เด็กโตเป็นหนุ่มแล้วครับ แต่ไม่ต้องการรื้อทิ้งทั้งหมด
            ผมใช้วิธีตัดต่อโครงไม้งานกรุผนังของเดิม เพราะสภาพห้องนี้ยังดีอยู่ ไม่เจอปลวก และความชื้นรบกวน เปลี่ยนวัสดุกรุตรงช่องกลางด้วยแผ่นเวฟบอร์ด ทำสีพ่น ่พลนผนังโดยรอบเปลี่ยนสีของ วอลล์เปเปอร์ซะใหม่ เป็นสีเทาเข้มขึ้น เน้นน้ำหนักสี ให้ดูมีความสำคัญขึ้น

        ส่วนนี้เป็นห้องนอนชั้นลอย ติดระเบียงริมน้ำ สภาพเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินเดิม มีร่องรอยปลวกกิน เจ้าของห้องอยากให้รื้อทำใหม่ทั้งหมดครับ

        สภาพห้องหลังจากรื้อถอน งานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินและฝ้าเพดานออกทั้งหมด ให้เห็นโครงสร้างเดิม

       สภาพห้องหลังจากเริ่มงานตกแต่งไปแล้วบางส่วน ทั้งงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ผมจัดเปลี่ยนตำแหน่งการวางเฟอร์นิเจอร์ใหม่กลับทิศทางจากเดิม ลองดูในภาพงานออกแบบ จะเห็นว่าดูลื่นไหลกว่าเดิมมาก
        ภาพงานออกแบบห้องใหม่ ใช้โทนไม้สีอ่อนตัดกับบัวโพลี่สีขาว  สลับกับงานกรุกระเบื้องโมเสคผิวเงา พื้นไม้ปาร์เก้ของเดิม
         แนวทางการออกแบบ เน้นให้ดูโปร่งโล่งขึ้น ลดทอนปริมาณงานเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน ให้น้อยลง เลือกใช้วัสดุที่เป็นไม้ให้น้อยลงบ้าง
    ตู้เสื้อผ้า หน้าบานกรุลามิเนตลายดอกเถาว์วัล กับกระจกเงาสะท้อนให้ห้องดูกว้างขึ้น  มุมแต่งตัวที่ออกแบบให้ดูโปร่งโล่งเบาๆ
          เป็นไงครับ หวังว่าคงพอได้ไอเดียกันไปบ้างนะครับ

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

เลือกตำแหน่งบ้าน ห้องคอนโด อย่างไร..?ให้น่าอยู่

           มีหลายๆท่านเวลาตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน หรือคอนโด(และแม้แต่การไปเช่าอพาร์เม้นท์อยู่) อาจจะไม่เคยทราบมาก่อนนะครับว่า ตำแหน่งทำเล ทิศทางของลม แสงแดด และสภาพแวดล้อมใกล้เคียง มีความสำคัญมากกับที่อยู่อาศัย หรือจะเทียบเคียงกับหลักการเรื่อง ฮวงจุ้ย ก็ประมาณนั้นนะครับ ที่จะพูดถึงวันนี้ไม่นับทำเลใกล้เคียงที่เป็นสถานที่เช่น ห้าง สถานีรถไฟฟ้า ถนนใหญ่ บลาๆๆๆ เพราะตรงนี้ท่านคงพอเลือกดูได้อยู่แล้วนะครับ มาดูกันครับ
           เรื่องแรก..ทิศทางของแสงแดดและลมครับ

       เบสิกเลยคือเรื่องแดดครับ น่าจะทราบดีแล้วแดดเช้ากับแดดบ่าย เลือกเอาว่าจะรับแดดกันตอนไหน ห้องไหนต้องการแดด โดยมากจะเป็นห้องน้ำ และครัว หรือห้องเก็บของ ห้องนอนถ้าเป็นห้องนอนใหญ่ โดยมากก็จะหลบไว้ด้านทิศตะวันออกครับจะเหนือหรือใต้ก็มาดูเรื่องลมอีกที เสริมเรื่องแดดในประเทศไทยอีกนิดว่า แดดจะโคจรอ้อมด้านทิศใต้(ดูรูปประกอบครับ) โดยอ้อมมากหน่อยในฤดูหนาวครับ ฤดูร้อนแดดเที่ยงก็จะค่อนข้างตรงใกล้ศรีษะหน่อย คือเอียงไม่มากเท่าฤดูหนาว
          เรื่องถัดมา...เรื่องลมครับ (ดูรูปประกอบด้านบนครับ) หน้าร้อน ลมจะพัดจากทิศใต้ไปทิศเหนือครับ ส่วนหน้าหนาว ลมจะพัดจากทิศเหนือไปทิศใต้ ดังนั้นอยากให้ห้องไหนเย็นสบาย(ร้อนน้อยหน่อย)ในหน้าร้อน ก็ต้องเอาห้องนั้นไปอยู่ด้านทิศใต้ครับ แต่ต้องไม่ลืมเรื่องของหลักการถ่ายเทของอากาศนะครับว่า ลมจะเข้าบ้านหรือห้องได้ ต้องมีทางลมเข้า และทางลมออกพร้อมกันนะครับ คือลมเข้าด้านใด ต้องมีปลายทางเปิดให้ลมออกด้วยนะครับ ใครไม่ชอยเปิดหน้าต่างเปิดแต่แอร์ก็ข้ามไปครับ
          เรื่องต่อมา...สภาพแวดล้อมโดยรอบครับ ถ้าเป็นบ้านจัดสรรค์และไม่อยู่ติดริมรั้ว เช่นอยู่กลางหมู่บ้านเลย สภาพแวดล้อมบางอย่างก็จะไม่กระทบกับท่าน แต่ถ้าเป็นคอนโด หรือบ้านที่ติดริมรั้วโครงการหมู่บ้าน ก็ต้องดูให้ดีครับ
       ด้านที่ติดกับสถานบันเทิง และมัสยิด ถ้าท่านไม่นิยมการฟังเสียงเพลงหรือเสียงสวด ควรระวังครับ ส่วนด้านที่ติดกับศาสนสถาน หรือวัด โดยเฉพาะวัดที่มีเมรุเผาศพ เห็นปล่องสูงๆ ถ้าเป็นคอนโดแล้วอยู่สูงและใกล้ ก็จะเป็นเรื่องของการไปอยู่สูงกว่าสิ่งศักสิทธิ์ หรือการใกล้สิ่งไม่เป็นมงคลอย่างเมรุครับ
           ใกล้ปั็มแก๊ส น้ำมัน ทางรถไฟ ที่ทิ้งขยะ ทำเลน้ำท่วม มลพิษต่างๆ เหล่านี้อย่าลืมเช็คดูให้ดีๆนะครับ มีผลกระทบแบบคาดไม่ถึงกันทีเดียว เอาเท่าที่นึกออกมีแค่นี้นะครับ โชคดีครับ